Thursday, December 29, 2011

race 14-19: hit the plateau | No comments:

race 14 : กระทุ่มแบนมินิมาราธอน
วิ่งเพื่อดูต้นทุน หลังถอดเฝือกได้ 4 วัน แขนยังบวมอยู่เลย
10K= 64m:22s 



race 20: ใกล้เป้าหมายเข้ามาอีกนิด | 2 comments:

เฉลิมพระเกียรติมหาราชจอมราชัน มหกรรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพ

นอกจากเป้าหมายหลักที่ตั้งไว้ตั้งแต่เริ่มวิ่งเมื่อเดือนพย.ปีก่อน ว่าจะวิ่งฟูลมาราธอนให้ได้ในงานกรุงเทพมาราธอนครั้งต่อไปแล้ว เรายังมีอีกเป้าหมายหนึ่งที่เพิ่มเข้ามาหลังจากได้เริ่่มฝึกอย่างเป็นระบบกับโค้ช หลังจากที่รู้ตัวเองแล้วว่ามีความสุขกับการพัฒนาฝีเท้า อยากทำสถิติให้ดียิ่งๆขึ้นไปด้วย เป้าหมายนั้นก็คือ วิ่ง 10 กม. ให้ได้ภายใน 52 นาที ซึ่งเป็นเป้าหมายแรกที่โค้ชวางไว้ เพื่อที่จะได้เป็นตัวเลขที่ไม่เกินเอื้อมแต่ในขณะเดียวกันก็ท้าทาย ไม่ใช่จะได้มาง่ายๆถ้าไม่พยายาม (ขณะนั้นคือปลายเดือนมิถุนา สถิติ 10K หลังจากแขนหัก หยุดวิ่งไปหนึ่งเดือนอยู่ที่ 64นาที:22วินาที)


Thursday, November 24, 2011

แนะนำสนามซ้อมวิ่งในจังหวัดขอนแก่น | 4 comments:

ช่วงที่หนีน้ำกลับบ้านที่ขอนแก่นได้ตระเวณไปตรวจสอบสนามและเลือกเฉพาะที่น่าสนใจมาแนะนำให้รู้จักกัน นักวิ่งท่านใดแวะไปทำธุระที่จังหวัดขอนแก่นแล้วนึกอยากวิ่งขึ้นมา ก็ตามตามลายแทงไปได้นะคะ

แห่งแรกที่ขอแนะนำเป็นสนามวิ่งยอดฮิตของนักศึกษาและบุคลากรชาวมหาวิทยาลัยขอนแก่น นั่นคือ "สระพลาสติก" นั่นเอง


ที่เรียกเช่นนี้เพราะเป็นสระที่ขุดขึ้นมาเพื่อเก็บน้ำสำหรับผลิตน้ำประปาแจกจ่ายในมหาวิทยาลัย ดังนั้นจึงต้องปูพลาสติกไว้ที่ก้นสระ...เพื่ออะไรก็ไม่รู้ เดาว่าเพื่อความสะอาดมั้ง


Tuesday, October 25, 2011

ชงเองกินเอง 2: พาสต้าซอสปลาหมึก | 2 comments:



ช่วงนี้ย้ายกลับมาอยู่คอนโดฯ เพราะ AIT จมน้ำหมดทั้งสถาบัน ปิดยาววววเลยได้ทำอาหารกินเอง อย่ากระนั้นเลย มาทำพาสต้ากินเพิ่มระดับคาร์โบไฮเดรตและไขมันในร่างกายดีกว่า



วิธีทำและสูตร ได้จากคลิปต้นแบบของช่อง Yellowsaffron จากยูทูป ช่องนี้นำเสนออาหารอิตาเลียนโดยคนอิตาเลียน (แต่พากษ์อังกฤษทับ) ใครสนใจก็เชิญ subscribe ได้ค่ะ


หน้าตาไม่เหมือนต้นแบบเล้ยยยซักนิด เพราะใช้วัตถุดิบที่หาได้ตามมีตามเกิด แต่อร่อยน้าาาา ทำง่ายด้วย ไวน์ขาวซื้อได้จากโลตัส เอาที่ถูกสุด ไม่ถึง 150 บาทค่ะ


Monday, October 3, 2011

เตรียมวิ่งมาราธอน ชุดที่ 5 | No comments:

วันจันทร์ที่ 26 กย.   วิ่งช้าสลับเร็ว 1 ชั่วโมง
วันอังคารที่ 27 กย.  พัก
วันพุธที่ 28 กย.        วิ่ง 25 กม.
วันพฤหัสที่ 29 กย.   jog เบาๆ หรือว่ายน้ำเบาๆ1 ชม.
วันศุกร์ที่ 30 กย.      200 jog 100 * 25 @60s
วันเสาร์ที่ 1 ตค.       1000 jog 200 * 10 @5:20 min
วันอาทิตย์ที่ 2 ตค.   พักผ่อนนอนให้หลับ อาทิตย์หน้าสุดโหดเลยล่ะ ขู่(แต่จริง)


Monday, September 26, 2011

เตรียมวิ่งมาราธอน ชุดที่ 4 | No comments:

วันที่ 19 กย.       วิ่งเบาๆบนหญ้า 40 นาที ยืดเหยียดเบาๆ ช้าๆครับ
วันที่ 20 กย.       พัก
วันที่ 21 กย.       Fartlek 6 กม.
วันที่ 22 กย.       200 jog 100*12 @ 58 วินาที
วันที่ 23-24 กย. วิ่งวอร์มเบาๆ ปิดท้ายด้วย stride 80 เมตร 7-8 เที่ยว
วันที่ 25             แข่งวิ่ง 10K


Saturday, September 17, 2011

เตรียมวิ่งมาราธอน ชุดที่ 3 | No comments:

อาทิตย์นี้โค้ชต้องการให้ฟื้นสภาพจากการแข่งขัน จึงเบาการฝึกดังนี้

12 กย.  jog เบาๆ 30-40 นาที ยืดเหยียดเบาๆ
13 กย.  พัก
14 กย.  วิ่งเบาๆ 40 นาที
15 กย.  วิ่งช้าสลับเร็วเหมือนวันที่วิ่งกับม๊อก 50 นาที (Fartlek-เราบอกเอง)
16 กย.  วิ่งเบาๆ 40 นาที
17 กย.  เจอกันที่สนามศุภฯครับ
18 กย.  วิ่งยาว 25 กม.


Thursday, September 15, 2011

ทำไมนักวิ่ง... | 2 comments:


พิมพ์คำว่า “ทำไมนักวิ่ง” ลงใน google เพราะอยากรู้ว่าชาวบ้านเค้าสงสัยอะไรในตัวพวกเราบ้าง ได้ผลการค้นหาดังนี้

ทำไมนักวิ่งมาราธอนต้องกินพาสต้าก่อนการแข่งขัน? อืม...ถามได้ดี มีความรู้
ทำไมนักวิ่งจาไมกาวิ่งเร็วดุจเทพ? นั่นสิ อยากรู้เหมือนกัน
ทำไมนักวิ่งต้องใส่เสื้อกล้ามวิ่งแข่ง? ถามแปลกๆ พี่จะให้ผมใส่เสื้อไรดีล่ะ
ทำไมนักวิ่งจึงชอบเอาเปรียบ? โถ...ไปเจ็บช้ำน้ำใจอะไรมาล่ะพ่อคู้ณ
ทำไมนักวิ่งอาหรับหน้าตาไปทางนิโกร? แล้วพี่ไปยุ่งอะไรกับค้าววว
ทำไมนักวิ่งฟอร์รันเนอร์ลีกมีแต่แก่ๆ? ชะอุ้ย!! ตัวใครตัวมันนะคร้าบ ป๋มไม่เกี่ยว
ทำไมนักวิ่งจึงคิดว่าตัวเองเป็นนักรักที่ดีด้วย ? โดนนักวิ่งแย่งแฟนมา ฤ ท่าน
ทำไมนักวิ่งหายไป ? คนตอบยังไม่หาย คนหายไม่ได้ตอบ  paradox สุดๆ
ทำไมนักวิ่งต้องใส่เสื้อวอร์มวิ่งอะคับ ? ไปเคลียร์กับคุณพี่เสื้อกล้ามข้างบนแล้วค่อยมาถามใหม่ดีมั้ยคับ
ทำไมนักวิ่งที่อายุ 70 ปีขึ้นไปต้องเสียค่าสมัครวิ่งด้วย? นั่นสิคะคุณลุง ขึ้นรถเมล์ยังไม่ต้องจ่ายตังค์เลยนิ
ทำไมนักวิ่งระยะสั้นต้องใส่สร้อยคอทองคำ? เพราะไม่กลัวโจร ถึงโดนกระชากก็ตามเอาคืนทันมั้งงิ
ทำไมนักวิ่งต้องตายจากการออกกำลังกาย? อุ้ย...ไปดีกว่า


==================================================

บางคำถามมีคำตอบที่น่ารู้เหลือเชื่อ จึงเลือกมาให้ทัศนากันโดยพลัน เผื่อได้ความรู้บ้างอะไรบ้าง
คลิกที่คำถามได้เลยค่ะ

Saturday, September 10, 2011

เตรียมวิ่งมาราธอน ชุดที่ 2 | 6 comments:


3 กย.   วิ่ง 400*15 jog 200 เวลา 1:50 นาที
4 กย.   วิ่ง 20 กม. บันทึกเวลาด้วยครับ
5 กย.   พัก
6 กย.   1 กม.*10 jog 200 เวลา 5:15-5:20 นาที
7 กย.   6 กม. สบายๆ
8 กย.   200 jog 100*15 เวลา 55 นาที
9-10    พัก
11        แข่งให้สะใจไปเลย 


Wednesday, September 7, 2011

1,000 กิโลเมตรแล้วจ้า | 2 comments:

ในที่สุดเราก็วิ่งครบ 1,000 กิโลเมตรแรกแล้ว เมื่อวาน (6 กันยายน 2554) เย่!!!
เริ่มเก็บสถิติลง Endomondo เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2554 ศิริรวมแล้ว 233 วัน เฉลี่ยแล้ววิ่งได้วันละ 4.29 กม. (ทำไมมันน้อยนักล่ะ แง้ว)

Thursday, September 1, 2011

เตรียมวิ่งมาราธอน ชุดที่ 1 | 2 comments:

วันจันทร์ที่ 29 ส.ค.           วิ่งเบาๆ 1 ชั่่วโมง
วันอังคารที่ 30 ส.ค.          วิ่ง 200 x 20 เที่ยว   jog ระหว่างเที่ยว 100m เวลา 60 วินาที
วันพุธที่ 31 ส.ค.                วิ่งเบาๆ 1 ชั่่วโมง 20 นาที               


Wednesday, July 20, 2011

60 วันกับโค้ช เซ็ทที่ 4 | No comments:

วันที่ 8 กค. วิ่ง 15 กม.เวลาไม่ต้องจับครับ แต่วิ่งให้รู้สึกเหนื่อยหอบเล็กน้อย
วันที่ 9 กค. วิ่ง 200 jog 100 x 15 เที่ยว เวลา 58 วินาที
วันที่ 10 กค. วิ่ง 1 กม. x 10 เที่ยว jog 200 เมตร เวลา 5 .25 นาที
วันที่ 11 กค. พักครับ



Friday, July 8, 2011

60 วันกับโค้ช เซ็ทที่ 3 | No comments:

วันศุกร์ที่ 1      วิ่ง 6 กม. x 2 เที่ยว jog ระหว่างเที่ยว 5 นาที เวลา 6:15 นาที
                       jog 8 นาที
                       วิ่ง 150m x 8 เที่ยว เดินพัก 150m ความเร็วสบาย
วันเสาร์ที่ 2     วิ่ง 1 กม. x 10 เที่ยว jog ระหว่างเที่ยว 200m เวลา 5:50 นาที
วันอาทิตย์ที่ 3 วิ่ง 200 x 15 เที่ยว jog ระหว่างเที่ยว 100m เวลา 60 วินาที
วันจันทร์ที่ 4    พัก

Friday, July 1, 2011

60 วันกับโค้ช เซ็ทที่ 2 | No comments:


วันจันทร์ที่ 27     วิ่ง 2 กม. x 5 เที่ยว jog ระหว่างเที่ยว 3 นาที เวลา 6:00 นาที / กม.
                           jog 8 นาที
                           วิ่ง 150m x 6 เที่ยว เดินพัก 150m ความเร็วสบาย
วันอังคารที่ 28    ว่ายน้ำ 1 ชม. 
วันพุธที่ 29          วิ่งช้า 1:20 ชม.
วันพฤหัสที่ 30     พัก

Friday, June 24, 2011

60 วันกับโค้ช เซ็ทที่ 1 | 2 comments:

สิ่งที่ต้องปฏิบัติทุกครั้ง ก่อนและหลังการซ้อมวิ่ง

1. วิ่งเหยาะๆช้าๆ ก่อนการซ้อมทุกครั้ง 20 นาที
2. ยืด - เหยียดและกายบริหารโดยเน้น ลำตัว แขน ขา
3. หลังการซ้อมต้องวิ่งเหยาะๆ ช้าๆ อย่างน้อย 20 นาที
4. กายบริหารและยืด - เหยียด ทุกครั้งหลังการซ้อม

Thursday, June 16, 2011

การบริหารมือและข้อมือ หลังจากถอดเฝือก | 21 comments:

ต้องพยายามฝืนทำให้บ่อยเท่าที่จะนึกได้ ก่อนการบริหารอาจนวดด้วยเจลที่ให้ความร้อนเพื่อช่วยคลายกล้ามเนื้อให้ยืดหยุ่นขึ้น หมอสั่ง corilax ให้กิน 3 เวลาหลังอาหารเพื่อช่วยคลายเส้นเอ็นด้วยอีกทาง 

ภาพนิ่ง
ท่าบริหารมือ และข้อมือ, ถอดเฝือก, แขนหัก

หนึ่งเดือนกับแขนเดียว ภาค mission | 2 comments:

จันทร์ที่ 16 พ.ค. แขนหัก
พุธที่ 18 พ.ค. เข้าเฝือก

วันที่ 8 หลังจากเข้าเฝือก เริ่มออกกำลังกายเบาๆ ด้วยการปั่นจักรยานในยิม อย่างต่ำวันละ 40 นาที
วันที่ 11 หลังจากเข้าเฝือก เพิ่มการเดินบนสายพานด้วยความชัน 6% ความเร็วระหว่าง 6.0-6.5 km/h เพื่อให้หัวใจขึ้นถึงระดับ >150 bpm รวมแล้วออกกำลังอย่างต่ำวันละ 1 ชั่วโมง
วันที่ 21 หลังจากเข้าเฝือก เพิ่มการวิ่งบนสายพาน ความเร็วระหว่าง 7.0-8.0 km/h รวมแล้วออกกำลังกายอย่างต่ำวันละ 1.5 ชั่วโมง




หมายเหตุ การออกกำลังกายในขณะใส่เฝือกต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์นะคะ อ่านเพิ่มเติมได้ที่โพสต์ ใส่เฝือกอยู่จะวิ่งได้มั้ย

พุธที่ 15 มิ.ย. ถอดเฝือก วัดอัตราการเต้นหัวใจขณะพักได้ 59 bpm เท่ากับก่อนบาดเจ็บ ลองวิ่งด้วยความเร็ว 6:40 นาที/กม. พบว่าอัตราการเต้นของหัวใจไม่แตกต่างจากก่อนบาดเจ็บ

สรุป mission complete 


Thursday, June 9, 2011

ใส่เฝือกอยู่จะวิ่งได้มั้ย | 7 comments:


สำหรับนักวิ่ง การต้องหยุดวิ่งไม่ว่าจะด้วยอาการบาดเจ็บใดๆ ช่างเป็นเรื่องที่แสนทรมาน นักวิ่งมักถูกชักนำจากความเป็นห่วงความฟิตของตนเอง หรือไม่ก็จากสารแห่งความสุขอย่างเอนโดฟิน ให้พยายามหาหนทางกลับมาวิ่งให้เร็วที่สุด 

เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าในกรณีที่บาดเจ็บกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นเนื่องมาจากการวิ่ง เราจะต้องหยุดวิ่งและรักษา(หรือปล่อยไว้เฉยๆรอมันเยียวยาตัวเอง)ให้หายเสียก่อน จากนั้นควรพักต่ออีกเป็นเวลาเท่ากับที่บาดเจ็บมา  แต่ถ้าเป็นการบาดเจ็บจากสาเหตุอื่น แต่ร้ายแรงถึงขั้นกระดูกหักจนต้องใส่เฝือกเลยล่ะ นักวิ่งจำเป็นต้องรอจนถอดเฝือก (ซึ่งอาจต้องใช้เวลาเป็นเดือนหรือมากกว่านั้น) และกระดูกเชื่อมกัน 100% (ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างต่ำ 3 เดือน) เลยหรือไม่ ... ถ้าคุณเป็นนักวิ่งใจเย็นมากกก คุณจะรอถึงวันนั้นก็ได้ แต่นักวิ่งทั่วไปใจร้อนดังเหตุผลที่กล่าวมาแล้วข้างต้น และคงต้องการคำตอบแบบอื่นมากกว่า

Monday, May 30, 2011

ชงเองกินเอง 1: สปาเกตตี้คาโบนาร่า | 3 comments:

สืบเนื่องจากแขนหัก ต้องหาหมอที่โรงพยาบาลแถวคอนโดทุกอาทิตย์ เราเลยเนียนๆขอลา advisor มา work@home เดือนนึง คิดถึงครัวแสนรักเป็นที่สุด

อย่ากระนั้นเลย ทำอาหารสำหรับนักวิ่งลง blog ดีกว่า เปิดศักราชด้วยของง่ายๆแต่ดูไฮโซอย่างสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าแล้วกัน เหตุผลไม่มีไรมาก...ข้่าพเจ้าอยากกิน ^ ^

ติดๆขัดๆ พูดไม่ค่อยรู้เรื่องก็ขออภัยด้วยนะคะ ครั้งหน้าจะโพรเฟสชันแนลกว่านี้แน่นอน (ถ้ามี)

Saturday, May 28, 2011

หนึ่งเดือนกับแขนเดียว ภาคกำเนิดอีสาวแขนเดียว (2) | No comments:

จากวันที่แขนหักจนถึงขณะนี้นับได้ 12 วันแล้ว เป็น 12 วันที่ผ่านไปอย่างแสนเชื่องช้า อาการปวดจากบาดแผลภายในหมดไปแล้ว เหลือเพียงอาการเจ็บแปล๊บๆเมื่อแขนเคลื่อนไหวในบางอิริยาบท ที่เกิดจากการเสียดสีกันของกระดูกส่วนที่หักทั้งสองฝั่ง ความเจ็บ ความลำบากในชีวิตประจำวันนั้นพอทนได้ แต่ชีวิตที่ต้องนั่งๆนอนๆและเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้ามันสุดจะทนจริงๆ เฝ้าแต่นับว่าเมื่อไหร่จะถึงวันที่ 18 มิ.ย.

Monday, May 23, 2011

race 13: คิดใหม่ทำใหม่ | 3 comments:

ADIDAS King of the Road THAILAND 2011 

ขอบันทึกความรู้สึกสั้นๆไว้ก่อน กันลืมโมเมนต์ของงาน จะมาอีดิทให้สมบูรณ์ในภายหลังค่ะ

- งานนี้วิ่งอย่างระวังตัว พยายามทำให้ดีที่สุด ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องฟังเสียงร่างกายตัวเองด้วย เพราะเห็นแล้วว่าการต้องเจ็บแลกกับสถิติที่ดีขึ้น ไม่คุ้มเลย ผลการแข่งขันน่าพอใจ สถิติดีเมื่อเทียบกับวิ่ง 16k กว่าๆเมื่อวันจักรี ที่สำคัญคือไม่เจ็บเลย

Saturday, May 21, 2011

หนึ่งเดือนกับแขนเดียว ภาคกำเนิดอีสาวแขนเดียว | 5 comments:

***mission***  นับจากวันที่ 18 พ.ค. เป็นเวลาอีก 30 วันถ้วน (หวังว่าอย่างนั้น) ข้าพเจ้าจะต้องดำรงชีวิตอยู่ด้วยแขนขวาเพียงข้างเดียว และจะต้องพยายามรักษาระดับความฟิต (วัดจาก resting heart rate) ให้คงที่อยู่ที่ 59 bpm ให้ได้ โดยไม่ทำให้แขนซ้ายกระทบกระเทือน.... ข้าพเจ้าจะทำได้หรือไม่.... โปรดติดตาม update ด้วยใจระทึกพลัน!!!

flashback กลับไปเมื่อวันจันทร์ที่ 16 พ.ค. เวลาประมาณเที่ยง ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำพอง จ.ขอนแก่น หลังจากพาพ่อแม่เดินไต่เขาระยะสั้นๆ เพื่อชมหินพิศดารต่างๆที่เป็นกิมมิกของอุทยานและถ่ายรูปกับป้ายอุทยานตามธรรมเนียมแล้ว เราเดินลงจากเนินหญ้าที่ตั้งป้ายด้วยอิริยาบทธรรมดา ไม่ได้รีบร้อนแต่อย่างใด อย่างไม่ทันตั้งตัว เพิ่งรู้สึกว่าพื้นหญ้าจุดที่เหยียบมันไร้แรงเสียดทานต่อพื้นรองเท้าอย่างสิ้นเชิง ส่งผลให้มวลขนาด 47 Kg หงายหลังลงมายังพื้นด้วยความเร่ง g = 9.8 m/s^2 ด้วยสัญชาติญาน เราจึงเอามือซ้ายเท้าพื้น ดังนั้น ณ วินาทีปะทะจึงเกิดแรง F = 460.6 N กระทำต่อมือซ้ายของเรา ส่งผลให้กระดูกแขนอันค่อนข้างบางอยู่แล้วหักกร๊อบในทันทีทันใด เรายังไม่รู้ตัวจนกระทั่งชักแขนมาดู คุณพระ!! แขนและหลังมือที่ควรมีระนาบเดียวกัน ตอนนี้กลายเป็นแขนเล่นระดับไปเสียแล้ว ดูดีมีรสนิยมเหลือเกิน กระนั้นเราก็ยังคิดเข้าข้างตัวเองว่ามันแค่เคลื่อน ไม่ได้หัก เพราะไม่ได้ปวดขนาดต้องร้องโอดโอยเหมือนที่เห็นนักบอลเป็น เวลาแขนขาหักคาสนาม เดี๋ยวหมอดึงกรึ๊บเดียวก็โอเคแล้วม้าง

Thursday, May 5, 2011

race 12: ไม่ล่ายหลั่งใจ | 7 comments:

2011 อัลตร้ามาราธอน 10 ชั่วโมง


การแข่งครั้งนี้คือจุดหมายปลายทางของการฝึกซ้อม Half Marathon 15 สัปดาห์ของเรา ในตอนแรกแค่กะคร่าวๆว่าจะลงแข่งฮาล์ฟแบบเอาจริงให้ได้ภายในต้นเดือนพ.ค. เพราะเป็นเวลาที่เราจะสอบ progress เสร็จพอดี เรียกว่าโล่งใจ พร้อมปลดปล่อยพลังงานเต็มที่ และเมื่อเห็นว่าต้นเดือนพ.ค.มีโปรแกรมที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับระยะฮาล์ฟ นั่นก็คือการวิ่งผลัด 2:30 ชั่วโมงในงานอัลตร้ามาราธอน เราจึงเริ่มชักชวนคุณ RookieX มาฟอร์มทีมวิ่งผลัดกัน โชคดีที่คุณ RookieX สังกัดชมรมเรียบร้อยแล้วเลยสามารถหาเหยื่อ เอ๊ย หาเพื่อนร่วมทีมอีก 2 ท่านได้โดยความอนุเคราะห์จากพี่สุเทพและพี่เตือนแห่งชมรมบางขุนเทียน สรุปว่าทีมเรามีบางขุนเทียน 3 คนและนักเตะต่างชาติ 1 คน ซึ่งก็คือเรานั่นเอง ^ ^ ส่วนชื่อทีม หลังจากการเสี่ยงทายเล็กๆน้อยๆ ระหว่าง 2 candidates ก็มาสรุปที่ชื่อ "ผมมาซื้อลูกชิ้น" ซึ่งให้บังเอิญมากๆว่า อีกทีมของบางขุนเทียนก็ตั้งชื่อทำนองเดียวกัน(แต่ดูห้าวหาญกว่า)ว่า "Ku(s)มาซ้อม"... เอิ่ม...สรุปมีใครจะมาวิ่งบ้างมั้ยเนี้ย

Friday, April 22, 2011

เจ็บ | 9 comments:

เราเคยเจ็บมาหนนึงแล้วตอนพยายามเปลี่ยนท่าวิ่งเป็น forefoot ด้วยความไม่รู้ว่าจะต้องฝึกกล้ามเนื้อร่วมด้วย ทำให้เราเจ็บไปทั้งขา ไล่ตั้งแต่ข้อเท้า หน้าแข้ง หลังขาอ่อน แต่ครั้งนั้นพักประมาณ 5 วันก็หาย เรากลับมาวิ่งท่าเดิม และเริ่มวิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ เราเริ่มมีเจ็บเข่าบ้างนิดหน่อย แต่ก็ยังฝืนวิ่งโดยเปลี่ยนท่าวิ่งให้เซฟเข่ามากขึ้น (แม้ท่าจะดูแย่ก็ตาม) อาการก็ค่อยๆทุเลาลงและหายไปในที่สุด อุตส่าห์โล่งใจว่าต่อไปคงวิ่งได้อย่างไม่ต้องกังวลเรื่องความบาดเจ็บอีกแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะมาเจ็บอีกครั้ง

Wednesday, April 13, 2011

ผลการฝึกซ้อม Half Marathon อาทิตย์ที่ 13 | 4 comments:

อาทิตย์นี้มีวันหยุดสงกรานต์ยาวเฟื้อย แต่ข้าพเจ้าก็ไม่ได้หยุดกะเค้า เพราะต้องสอบ progress ปลายเดือนนี้ ไหนจะต้องทำงานให้อาจารย์(ซึ่งเป็นอินเดีย ไม่หยุดสงกรานต์ T_T)อีก แต่ไม่เป็นไรอดทนหน่อย เดือนหน้าก็จะได้ไปเที่ยวกับที่บ้านแล้ว เย้!!! ส่วนการซ้อมก็ดำเนินต่อไป อาทิตย์นี้ต้องวิ่งยาวให้สำเร็จให้จงได้ สู้โว้ย!!!


ผลการฝึกเป็นดังนี้

Thursday, April 7, 2011

race 11: ของแถมที่ไม่ต้องการ | 3 comments:

เดินวิ่งเฉลิมพระเกียรติวันจักรี 2011

กลับมาวิ่งมินิมาราธอนอีกครั้งเนื่องจากตารางฝึกซ้อมของอาทิตย์ที่ 11 นั้นให้พักวิ่งยาว นั่นคือในวันอาทิตย์ให้วิ่งแค่ 9 กม.เท่านั้น คงต้องการให้ผู้ฝึกพักผ่อนกล้ามเนื้อ ก่อนจะให้อัด 21 กม. ในวันวิ่งยาวของอีก 3 อาทิตย์ที่เหลือ เราเลยถือโอกาสหางานวิ่งระดับมินิฯ เพื่อทดสอบความเร็วล่าสุดของตัวเองเสียหน่อย

จริงๆแล้วอาทิตย์นี้มีงานวิ่งมินิในกรุงเทพ 2 งาน เราเลือกมางานนี้อย่างไม่คิดอะไรมากเพราะชื่นชอบเส้นทางและทิวทัศน์ของสะพานพระราม 8 และสะพานบรมราชชนนีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่นึกเลยว่าการเลือกแบบคิดน้อยเช่นนี้จะนำความเซ็งอย่างยิ่งมาสู่ตัว

Thursday, March 31, 2011

race 10: สวยโหด | 4 comments:

อ่าวดงตาลมินิ-ฮาล์ฟมาราธอน 2011


ชื่อโพสต์มิได้หมายถึงข้าพเจ้าแต่อย่างใด เพราะข้าพเจ้าน้าน สวย อ่อนแอ บอบบาง น่าทนุถนอม (ขอไม่วงเล็บว่า ฮี่ ฮี่ หรือ เอิ๊ก เอิ๊ก เพราะอันนี้เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอนร้อยเปอร์เซนต์ ไม่ได้ล้อเล่นแม้สักกระผีก...เชื่อมั้ยอ้ะ ^ ^) แต่เป็นคำจำกัดความของเส้นทางวิ่ง half marathon ครั้งแรกในชีวิตของเราที่อ่าวดงตาลนั่นเอง

Tuesday, March 29, 2011

ผลการฝึกซ้อม Half Marathon อาทิตย์ที่ 11 | 2 comments:

อาทิตย์นี้ตารางให้พักวิ่งยาวหลังจากที่เพิ่มระยะจนถึงฮาล์ฟมาราธอนได้เป็นครั้งแรก ดังนั้นเช่นเคย ถ้าเวลาอำนวยวันอาทิตย์จะหางานแข่งเพื่อทดสอบความเร็วล่าสุดดูสักที ส่วนวันพฤหัสจะฝึก speed work ชดเชยจากอาทิตย์ที่แล้ว ครั้งนี้ smart coach ให้วิ่ง 3*1,600m ที่ความเร็ว 5:30 นาที/กม.


ผลการฝึกเป็นดังนี้

Tuesday, March 15, 2011

ผลการฝึกซ้อม Half Marathon อาทิตย์ที่ 9 | 7 comments:

อาทิตย์นี้กรุงเทพ (จริงๆคงทั้งประเทศ) มีฝนประปราย อากาศเย็นสบาย ไม่น่าเชื่อว่ากลางเดือนมีนาคมจะเย็นได้ถึง 19 องศา อยากให้เป็นอย่างงี้ไปนานๆจัง เอารูปเส้นทางใน AIT ที่เราวิ่งประจำมาให้ดู ความร่มรื่นนี่น้องๆสวนลุมเลยนะ มาสคอตที่สวนลุมมี AIT ก็มี ตัวใหญ่กว่าด้วย ว่างๆจะค้นมาให้ดูกัน แต่ถนนสู้สวนลุมไม่ได้ เพราะเป็นถนนราดยางที่เก่าแล้ว ปุปะเป็นหย่อมๆ วิ่งกลางคืนต้องเพ่งให้ดี และหน้าฝนต้องระวังหน่อย ระหว่างและหลังฝนตกใหม่ๆอย่าเพิ่งออกไปวิ่ง เพราะต้นไม้ใหญ่ๆผุๆเยอะ วิ่งๆอยู่อาจเจอแจ็คพ็อตจากฟากฟ้าได้

Tuesday, March 1, 2011

ผลการฝึกซ้อม Half Marathon อาทิตย์ที่ 7 | 8 comments:

กลับมาอีกครั้งกับการซ้อม speedwork เป็นอะไรที่ชอบและรอคอย ซาดิสม์ดี  คำณวนดูแล้ว ให้วิ่ง @5:35 นาที/กม. วิ่งกันหูตูบแน่นอน ^ ^


ผลการฝึกเป็นดังนี้

race9: ชื่นใจ | 2 comments:

กสท.-ปณท. มินิมาราธอน

6 อาทิตย์ที่ผ่านมา เราข้องใจอยู่ลึกๆมาโดยตลอดว่าโปรแกรมฝึกซ้อมของ SmartCoach ที่กำลังก้มหน้าก้มตาฝึกอย่างไม่ขาดตกบกพร่องนั้น จะสามารถนำพาให้เราจบคอร์ส 15 สัปดาห์ได้ด้วย pace 5:47 ในการวิ่ง 21 กม. ได้จริงหรือ ในขณะที่สถิติล่าสุดของเราอยู่ที่ 5:52 เท่านั้น หนำซ้ำยังเป็นการวิ่งแค่ 11 กม. กว่าๆอีกต่างหาก การแข่งวันนี้เราจึงตื่นเต้นเป็นพิเศษ (จากที่ปกติก็ตื่นเต้นกับงานแข่งทุกครั้งอยู่แล้ว) อยากจะรู้ว่า หลังจากฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอมาเดือนกว่า เราจะสามารถทำสถิติดีขึ้นอย่างที่คาดหวังได้หรือไม่ เพราะถ้าคำตอบคือ"ได้" นอกจากจะดีใจแล้ว ยังทำให้เชื่อมั่น พร้อมที่จะฝึกต่อไปตามแผนโดยปราศจากวิจิกิจฉาอีกด้วย

Tuesday, February 22, 2011

ผลการฝึกซ้อม Half Marathon อาทิตย์ที่ 6 | 8 comments:

อาทิตย์นี้ SmartCoach คงอยากให้ผ่อน จะเห็นว่าเป็น easy run ทั้งสัปดาห์ เลยจะถือโอกาสใช้วันอาทิตย์แอบไปแข่งมินิมาราธอนเสียที ร้างสนามมานานมากแล้ว


ผลการฝึกเป็นดังนี้

Saturday, February 19, 2011

endomondo: online running logbook ที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน | 6 comments:

นักวิ่งที่มีอุปกรณ์ GPS tracking ของ GARMIN ถ้าอยากเก็บสถิติการวิ่งก็ใช้ http://connect.garmin.com/
นักวิ่งที่มีอุปกรณ์นับจำนวนก้าวของไนกี้ (จริงๆแล้วในเดือนเมษาที่จะถึงนี้ Nike จะออกนาฬิกาที่มี GPS tracking ด้วย) ถ้าอยากเก็บสถิติการวิ่งก็ใช้ http://www.nikerunning.com/

คำถามคือ แล้วนักวิ่งที่มีแต่นาฬิกาจับเวลาล่ะ จะมีเว็บไหนที่เปิดโอกาสให้เราได้เก็บสถิติการวิ่งลงใน logbook ได้บ้าง คำตอบคือ มีเยอะแยะ แต่ในจำนวนเว็บเหล่านั้น อันที่มีฟีเจอร์ครบที่สุด หน้าตาดีที่สุด มี serious runner รวมตัวกันอยู่มากที่สุด (เรานับเฉพาะนักวิ่งในไทย) เห็นจะไม่พ้น http://www.endomondo.com/ วันนี้เราจึงมารีวิวฟีเจอร์บางส่วนของ endomondo ให้ดูกัน

การแก้ปัญหากรณีไม่ใช้โหมด auto lap ของ Garmin Forerunner 110 | 4 comments:

จากที่เคยรีวิวไปแล้วใน"ผลการทดลองใช้ Garmin Forerunner 110" ว่านักวิ่งอย่างเราลำบากใจยิ่งนักเมื่อจะต้องเลือกว่าจะใช้โหมด auto lap หรือไม่ เพราะถ้าใช้ ระหว่างวิ่ง ความเร็วที่แสดงบนนาฬิกาจะเป็นความเร็วเฉลี่ยของ lap ล่าสุดซึ่งสำหรับเราชอบที่จะเห็นความเร็วเฉลี่ยตั้งแต่เริ่มต้นการวิ่งจนถึงปัจจุบันมากกว่า แต่ข้อดีของการใช้ auto lap ก็คือ เมื่อคุณ upload ข้อมูลขึ้นบนเว็บ garmin connect คุณจะเห็นความเร็วของแต่ละ lap (แบบนี้) ทำให้วิเคราะห์และแก้ไขการวิ่งครั้งต่อๆไปได้

ถ้าเลือกที่จะไม่ใช้โหมด auto lap แน่นอนใน garmin connect คุณก็จะเห็นแต่ความเร็วเฉลี่ยของทั้งคอร์ส แต่จริงๆแล้วถ้าเราอยากเห็นความเร็วเฉลี่ยแต่ละ lap ก็สามารถทำได้ แค่คุณเปลี่ยนไปใช้ online running logbook ตัวอื่นนั่นเอง ในที่นี้เราขอเสนอเว็บ http://www.endomondo.com/ ซึ่งจะได้พูดถึงโดยละเอียดต่อไป

Monday, February 14, 2011

ผลการฝึกซ้อม Half Marathon อาทิตย์ที่ 5 | 8 comments:

ทึ่งในความ "Smart" ของ SmartCoach เพราะหลังจากวิ่งยาวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เราบอกตัวเองว่า ถ้าอาทิตย์นี้ตารางซ้อมกำหนดให้เพิ่มระยะวิ่งยาวขึ้นอีก เราก็จะยังไม่เพิ่ม ขอแช่เย็นให้ขาทนความล้าในระดับ 16 กม.ให้ได้ก่อน แล้วค่อยไปต่อ พอมาดูตารางจึงพบว่า SmartCoach ก็กำหนดให้แช่เย็นไว้ที่ 16 อีก 2 สัปดาห์ เหมือนจะรู้ว่านักวิ่งที่เคยวิ่งแต่ 10 กม. พอเพิ่มระยะถึง 16 จะเริ่มรู้สึกถึงความยากลำบาก ไม่ได้ชิลล์ๆ อีกต่อไป... คิดถึงหนทางข้างหน้าแล้ววลีของเทเลทับบี้ก็ผุดขึ้นมา..."ได้เวลาสนุกแล้วซีๆ"


ผลการฝึกเป็นดังนี้

Friday, February 4, 2011

ผลการฝึกซ้อม Half Marathon อาทิตย์ที่ 3 | 2 comments:

อาทิตย์นี้เป็นครั้งแรกที่ในตารางฝึกซ้อมกำหนดให้ฝึก Speedwork แบบ interval ด้วย ดังที่เห็นในตารางวันที่ 3 กพ. ซึ่งเมื่อคลิกเข้าไปดูจะมีคำอธิบายโดยละเอียดว่า ให้เริ่มด้วยการ warm up 2 กม. ด้วยความหนักระดับ long run จากนั้นฝึกแบบ interval โดยการวิ่ง 1,600 เมตร ภายในเวลา 9 นาที 6 วินาที (เราแปลงเป็น pace ได้ประมาณ 5:41 นาที/กม.) แล้วปิดท้ายด้วยการวิ่งช้าๆที่ความหนักระดับ recovery อีก 800 เมตร ทำแบบนี้ 2 รอบ จากนั้น cool down ด้วยการวิ่ง 1 กม. ด้วยความหนักระดับ long run

ดูทรงแล้ว ท่าทางการวิ่งมืดๆ ท่ามกลางหลอดไฟ High Pressure สีส้มๆชวนเหงา และถนนตะปุ่มตะป่ำใน AIT คงไม่ได้การแน่ๆ ต้องวิ่งเร็ว เหนื่อยก็เหนื่อยแล้วยังต้องมาคอยกดปุ่ม Light เพื่อให้เห็นตัวเลขระยะทางบนนาฬิกาอีก เราเลยไปเล็งสนามมาตรฐาน 400 เมตรในธรรมศาสตร์ไว้ก่อนหน้านี้เรียบร้อยแล้ว

Tuesday, February 1, 2011

reverse engineering ตารางฝึกซ้อมวิ่งฮาล์ฟมาราธอนจาก SmartCoach | 8 comments:

วันนี้ขออนุญาตงัดวิทยายุทธ reverse engineering สมัยเรียนป.ตรี มาชำแหละตารางฝึกซ้อมที่ได้จาก SmartCoach เพื่อดูว่าเค้ากำลังให้เราทำอะไร และเราจะก็อปปี้...เอ๊ย...เรียนรู้จากการชำแหละนี้ เพื่อสร้างตารางฝึกซ้อมของตัวเองได้หรือไม่

อันดับแรก ขอแนะนำนักวิ่งมือใหม่ให้รู้จักกับเกณฑ์การวัดความหนักเบาในการฝึกวิ่งเสียก่อน เกณฑ์นี้เรียกว่า % Heart Rate Reserve (%HRR) ซึ่งค่านี้จะเป็นตัวบอกว่าในการฝึกนั้นๆ เราต้องวิ่งจนหัวใจเต้นเร็วกว่าอัตราการเต้นของหัวใจขณะพักมากน้อยเพียงใด การฝึกใดที่ต้องใช้ %HRR มากการฝึกนั้นถือว่าหนัก

Friday, January 28, 2011

1 วันของข้าพเจ้า...นักวิ่ง(มือใหม่) | 7 comments:

ลองเขียนตารางชีวิตใน 1 วันทำงานของตัวเองเล่นๆ ได้ออกมาดังนี้
==============================================

- นอน 7 ชั่วโมง
สมัยก่อนนอน 6 ชั่วโมง เพราะเคยอ่านเจอว่าผู้ใหญ่นอน 6 ชั่วโมงก็พอแล้ว ก็เลยนอนแค่นั้น ไม่ได้เอาความรู้สึกตัวเองมาจับ
พอได้มาวิ่ง เริ่มฟังสัญญานต่างๆของร่างกายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความเหนื่อย ความล้า ความง่วง ความเพลีย เลยลองนอนให้เต็มตื่นดู สรุปว่าสำหรับผู้ใหญ่อย่างเรา...ต้องนอน 7 ชั่วโมงถึงจะสดชื่น พร้อมที่จะวิ่งทุกวันอย่างมีความสุข

- ทำงาน 8 ชั่วโมง
ตั้งแต่เริ่มวิ่งจริงจัง ช่วงรอผลรันโปรแกรมก็เข้าเว็บบอร์ดเกี่ยวกับการวิ่ง ดูนักวิ่งเค้าคุยกันสนุกสนาน
เมื่อก่อนเคยเซ็งๆบ้างเมื่อต้องไปหา advisor ตอนเย็น เพราะจะต้องโดนเพิ่มงาน โดนบ่น หรือโดนให้หาคำตอบแปลกๆของแก ไหนจะปวดหัวกับภาษาอังกฤษสำเนียงอินเดีย ที่ฟังมาเกือบปีก็ยังฟังไม่ค่อยออก แต่เดี๋ยวนี้ชิลล์ๆ คิดเสียว่าผ่านเย็นนี้ไป ก็ได้วิ่งแล้ว เย้!!!

- พักผ่อน 9 ชั่วโมง แบ่งเป็น
   - อาบน้ำ, แต่งตัว, เดินทาง 2 ชั่วโมง
  - กินข้าว 3 ชั่วโมง เมื่อก่อนข้าวเช้าบางทีก็ไม่กิน เดี๋ยวนี้ต้องกินให้ครบทุกมื้อ อย่างใส่ใจในคุณภาพ เพราะร่างกายต้องการพลังงานเอาไว้วิ่ง
   - วิ่ง 2 ชั่วโมง รวมเวลาแต่งตัว, warm up, cool down, ยืดเส้น, เดินพัก, ซื้อเกเตอเรทที่ 108 shop, โอ้เอ้อีกนิดหน่อยเพื่อซึมซาบเอ็นโดรฟินที่หลั่งออกมาหลังวิ่ง
   - ก่อนนอนอ่านเว็บวิ่ง อ่านบทความเรื่องวิ่ง อ่านนิตยสารสำหรับนักวิ่ง เขียนบล็อกเรื่องวิ่งอีก 2 ชั่วโมง
==============================================

อ่านแล้วจึงรู้ตัวว่า ที่คนรอบข้างบอกว่าเราบ้าวิ่ง...สงสัยจะจริงของมัน ^ ^


Thursday, January 27, 2011

ผลการฝึกซ้อม Half Marathon อาทิตย์ที่ 2 | No comments:

เนื่องสถิติการแข่งขันของเราดีขึ้นจาก 6 นาที/กม. เป็น 5:51 นาที/กม. และรู้สึกว่าตารางฝึกซ้อมอันเก่าให้วิ่งช้าไปหน่อย วันวิ่งยาวก็ไม่เห็นจะยาวเท่าไหร่เลย ไม่สะใจ เลยขอตารางฝึกใหม่จาก SmartCoach โดยยังคงเป้าหมายวันแข่งตามเดิมคือ 1 พ.ค. วันแรงงาน ได้ตารางฝึกมาแบบนี้ (ตัดให้ดูเฉพาะอาทิตย์แรก)


เห็นแล้วก็คิดว่า ขอโมฯเองนิดหน่อยเพื่อให้ตรงกับจริตของเราดีกว่า
1) เราติดวิ่งซะแล้ว ขอพักวันจันทร์วันเดียวก็พอ ร่างกายจะได้พักฟื้นหลังการวิ่งยาว ส่วนวันอื่นที่ให้พัก ขออนุญาตวิ่ง 5 กม. ที่อัตราการเต้นของหัวใจ 70%HRR แทน เพราะด้วยความเร็วนี้เราแทบไม่เหนื่อยเลย และระยะทางขนาดนี้ก็กำลังพอเหมาะกับเรา ไม่น้อยจนเสียดายเวลาแต่งตัว ไม่มากจนทำให้ล้า (เรื่อง %HRR จะเล่าโดยพิศดารต่อไปภายภาคหน้า)
2) วันที่กำหนดให้วิ่งน้อยกว่า 5 กม. เราขอวิ่ง 5 กม. ด้วยเหตุผลที่บอกไปแล้ว
3) อาทิตย์หลังๆกำหนดให้วิ่งยาวถึง 21 กม. เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราจะขอแอบไปลงแข่งจริงซะเลย วิ่งขำๆเผื่อฟลุกได้ถ้วยติดมือก็ดี 555+

ผลการฝึกเป็นดังนี้
วันจันทร์: พัก
วันอังคาร: วิ่ง 6 กม., ความเร็ว 7:01 นาที/กม. ค่อยยังชั่วหน่อย วิ่งช้าแล้วเหมือนไม่ได้ซ้อม สบายเกิ๊น
วันพุธ: วิ่ง 5 กม., ความเร็ว 7:28 นาที/กม. เป็นความเร็วที่ทำให้หัวใจเต้นเฉลี่ย 70%HRR
วันพฤหัส: warm up 2 กม., วิ่ง 5 กม., ความเร็ว 6:04 นาที/กม., cool down 1 กม. วิ่งเร็วเกินที่กำหนดเพราะกะไม่ถูก เล่นเอาเหนื่อยกันเลยทีเดียว ^ ^
วันศุกร์: วิ่ง 5 กม., ความเร็ว 7:00 นาที/กม. โดยเฉลี่ยหัวใจเต้นช้าลงกว่าการวิ่งที่ความเร็วเดียวกันนี้เมื่อวันอังคาร คือจาก 158 เป็น 156 bpm
วันเสาร์: วิ่ง 5 กม., ความเร็ว 7:35 นาที/กม. เป็นความเร็วที่ทำให้หัวใจเต้นเฉลี่ย 68%HRR
วันอาทิตย์: วิ่งยาว 13 กม., ความเร็ว 7:01 นาที/กม. เกือบไม่ได้แน่ะ ต้องมาเร่งตอนท้าย สงสัยกินข้าวเย็นเยอะไป 555+

Wednesday, January 26, 2011

race 8: สนุก+สะดวก+สบาย | 3 comments:

ขอนแก่นมาราธอนนานาชาติ ครั้งที่ 8

คำเตือน!!! โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน เนื่องจากผู้เขียนเป็นไทบ้านขอนแก่นและรักบ้านเกิดมั่กมาก ความเห็นใดๆในที่นี้อาจเอียงกะเท่เร่ได้ทุกขณะ ^ ^

เราไม่กล้าฟันธงว่านี่คืองานวิ่งที่ดีที่สุดของเมืองไทย บอกได้แต่เพียงว่าเป็นงานวิ่งที่ดีที่สุดตั้งแต่เคยวิ่งมา ยังเหลือพัทยาและภูเก็ตซึ่งเป็น international tournament อีก 2 แห่งที่รอการเปรียบเทียบ อย่างไรก็ตามจากฟีดแบ็คของนักวิ่งที่ได้อ่านตามเว็บวิ่ง ทำให้ได้รู้ว่าเราไม่ได้ไบแอสไปเอง เพราะหลายท่านต่างยกให้งานนี้เป็นอันดับหนึ่งของเมืองไทยเช่นกัน

Tuesday, January 18, 2011

ผลการฝึกซ้อม Half Marathon อาทิตย์ที่ 1 | 9 comments:

อาทิตย์ที่ 1 วันที่ 1 : พัก หรือ Cross Training
ผลการฝึก: ขออภัยคุณครูอย่างสูง ข้าพเจ้าเห่อของใหม่เลยขออณุญาตไม่พัก
ลองวิ่งเพื่อทดสอบดูว่า ที่ 80% ของ HRR พอดี (159 bpm) ความเร็วจะเป็นเท่าไร



แนะนำแผนการฝึกวิ่งจาก internet | 2 comments:

จากที่เคยเล่าให้ฟังในโพสต์ก่อนๆว่าปัจจุบันนี้มีเว็บไซต์หลายแห่งจัดทำแผนการฝึกวิ่งระยะไกล เพื่อให้นักวิ่งมือสมัครเล่น ได้ download ไปใช้ฝึกซ้อม โดยครั้งที่แล้วได้แนะนำไปหนึ่งแห่งคือเว็บของไนกี้ ในโพสต์นี้จึงขอแนะนำอีก 2 เว็บไซต์ที่น่าสนใจ นั่นคือ New Balace และ Runner's World

New Balace นำเสนอแผนการวิ่งตั้งแต่ 5K, 10K, Half Marathon ไปจนถึง Full Marathon แต่ละประเภทแยกเป็น 3 แผนแบบเดียวกับของไนกี้ นั่นคือ Beginner, Intermediate และ Advace ซึ่งนักวิ่งต้องประเมินเอาเองว่าตัวเองจัดอยู่ในระดับไหน แผนของ New Balace เหมาะกับคนที่มีเวลาหรือติดวิ่ง เพราะกำหนดให้วิ่ง 4-5 ครั้ง ต่อสัปดาห์ และให้ออกกำลังกายแบบอื่นๆ อีกสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ต่างจากของไนกี้ที่กำหนดให้วิ่งเพียงสัปดาห์ละ 3 ครั้งเท่านั้น นักวิ่งที่ใช้แผนนี้ไม่จำเป็นต้องมีนาฬิกาจับเวลา หรือนาฬิกาที่วัดความเร็วได้แต่อย่างใด เพราะแผนนี้กำหนดความเร็วเพียงคร่าวๆเท่านั้นเช่น "conversational speed" ซึ่งหมายถึงวิ่งด้วยความเร็วในระดับที่วิ่งไปพูดไปได้อย่างปกติ ข้อดีของเว็บนี้คือเราสามารถ downloadแผนการวิ่งได้ฟรีในรูปแบบ pdf file ส่วนข้อเสีย (สำหรับเรา) คือใช้หน่วยเป็น mile เท่านั้น คนไทยอย่างข้าพเจ้าไม่คุ้นเคย ต้องเสียเวลาเอา 1.609344 ไปคูณอีก

Monday, January 17, 2011

ผลการทดลองใช้ Garmin Forerunner 110 | 5 comments:

สิ่งที่ชอบ
- มีรุ่นสำหรับผู้หญิง, ขนาดเล็กที่สุดในบรรดานาฬิกา GPS (แต่ก็ใหญ่อยู่ดี แหะ แหะ)
- ใช้งานง่าย
- มีฟังก์ชั่นที่เพียงพอสำหรับนักวิ่ง outdoor มือสมัครเล่น
- ปิดโหมดการเชื่อมต่อ GPS โดยอัตโนมัติหลังจบการวิ่ง ช่วยให้ประหยัดแบตเตอรี่

สิ่งที่ไม่ชอบ
- ปุ่ม up,down กดยาก
- สายรัดของ chest strap ยาวเกินไป ต้องโมเองเพื่อให้ใส่ได้กระชับ
- ต้องเลือกระหว่าง "ใช้" หรือ "ไม่ใช้" auto lap  ส่วนตัวแล้วหลายใจ อยากได้ข้อดีของทั้งสองแบบ ไม่อยากเลือกอ้ะ ^ ^

Thursday, January 13, 2011

เก็บสถิติการวิ่งกับ Nike+ | No comments:

สำหรับนักวิ่งมือใหม่ที่อยากฝึกฝนตัวเองอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเพื่อมุ่งไปสู่การวิ่ง 5 กิโลเมตรแรกในชีวิต หรือฝึกเพื่อมาราธอน การมีแผนการซ้อมที่เป็นรูปธรรม สามารถวัดและติดตามผลได้ จะช่วยให้การฝึกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ในส่วนของแผนการซ้อม ถ้าเป็นสมัยก่อน ตอนที่ยังไม่มีอินเตอร์เน็ต คนมีกุนซือก็โชคดีไป ให้กุนซือเขียนแผนให้ ส่วนคนที่วิ่งเองอยู่แถวบ้านก็คงต้องไปตระเวณหาหนังสือเกี่ยวกับการวิ่งมาอ่านและเขียนแผนเอาเอง หรือไม่อย่างงั้นก็ซ้อมมันแบบไม่มีแผนนี่แหละ ส่วนการวัดและติดตามผล ถ้ามีนาฬิกาจับเวลาและรู้ระยะของเส้นทางที่ใช้ซ้อมวิ่งเป็นประจำ ก็สามารถคำนวณความเร็วเฉลี่ยหรือความเร็วฝีเท้า(pace)ออกมาได้ แล้วจะจดลงสมุดหรือพิมพ์ลง excel ก็แล้วแต่ความไฮเท็คของแต่ละคน แต่ปัญหาก็คือ กรณีที่ต้องวิ่งในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย จะรู้ได้อย่างไรว่าเราวิ่งเป็นระยะทางเท่าไหร่

Tuesday, January 11, 2011

race 7: บู้บี้ | 4 comments:

ภปร. สามพราน มินิ-ฮาล์ฟ มาราธอน 2011

งานนี้ทำให้ได้บทเรียนใหม่สำหรับนักวิ่งหน้าใหม่อย่างเรา "ถ้าเจ็บก็อย่าฝืน" อย่างที่เคยเล่าให้ฟังว่าเราเจ็บมาก่อน จริงๆก็เจ็บเล็กเจ็บน้อยมาตั้งแต่เปลี่ยนท่าวิ่งแล้ว คาดว่าเพราะวิ่งผิดท่า ลงน้ำหนักแบบไม่ยอมเซฟข้อเท้า แต่พอเห็นว่าทายาก็ยุบเลยไม่ยอมพัก หลังสุดคือซ้อม 14 กม. อันนี้เล่นจริง เจ็บจริง แบบไม่ต้องง้อสตั๊นท์เลย ขนาดเดินยังแปล๊บๆที่เข่าขวาเป็นระยะ แต่ด้วยความอยากวิ่งเพราะอุตส่าห์ซ้อมมาแล้ว ทำให้เราดันทุรังมาแข่งจนได้

Saturday, January 8, 2011

Training Video สำหรับ Garmin's Forerunner 110 | 2 comments:

กำลังจะได้ gadget ใหม่ เป็นนาฬิกาที่ track GPS ได้ และมี feature ต่างๆสำหรับนักวิ่งโดยเฉพาะ เช่นจับเวลา คำนวณความเร็ว(กิโลเมตร/ชั่วโมง) และความเร็ว pace (นาที/กิโลเมตร) แคลอรี่ที่ใช้ มีออปชั่น Heart rate monitor ด้วย โดยใช้ร่วมกับ chest strap จึงขอนำ training video มาลงไว้ในที่นี้ เวลาอยากดูจะได้หาง่ายๆ ถ้ามีโอกาสจะทำรีวิวให้ดูกันอีกทีค่ะ

Friday, January 7, 2011

ร้านสวีท ใกล้สวนกุหลาบ | No comments:

รีวิวนี้ดองไว้ตั้งแต่ไปวิ่งงานของสวนกุหลาบเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว แม้จะไม่ถึงกับประทับใจ แต่ก็คิดว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักวิ่งที่อยากหาอาหารเช้ากินเมื่อไปวิ่งในโซนเกาะรัตนโกสินทร์ตอนใต้ เช่นงานวิ่งไทย-ซิกข์ ปลายเดือนนี้ เพราะร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 6 โมงเช้า


ร้านนี้เค้าดังที่สเต๊ก อเมริกันเบรคฟาสต์ หรือถ้าอยากกินแบบไทยๆก็แค่เปลี่ยนจากขนมปังมาเป็นข้าว เป็นอาหารเนื้อๆ เหมาะกับผู้ชายที่ส่วนมากเป็นพวก carnivor ดี วันที่ไปก็มีเด็กสวนฯมากินกันเต็มร้านเลย ท่าทางจะมีชื่อเสียงพอสมควรเพราะข้างฝามีรูปถ่ายกับดาราเต็มไปหมด เราสั่งข้าวกับหมูรมควัน+ไส้กรอก+ไข่ดาว ราคา 45 บาท หมูรมควันหอมๆเค็มๆ อร่อยดี แต่ข้าวน้อยไปหน่อย ผู้ชายอาจต้องเบิ้ล



ที่ตั้งหาง่ายมาก อยู่ตึกแถวตรงข้ามกับเพาะช่างพอดี หรือถ้าเอาสวนกุหลาบเป็นหลักก็ให้ออกจากประตูสวนกุหลาบ ข้ามถนน เดินไปทางซ้ายไม่เกิน 200 เมตรก็ถึงแล้ว หรือจะพิมพ์คำว่า "สวีท" ลงไปใน google map เลยก็ได้ค่ะ


โทรศัพท์ 02 222 9611

Thursday, January 6, 2011

ผลการฝึกซ้อม 14K | 4 comments:

จากโพสต์ DIY ตารางฝึกซ้อม 14K ที่เคยลงให้ดู พบปัญหาในการฝึกซ้อมดังนี้

1) ในวันอาทิตย์ที่ตั้งใจให้เป็นวันวิ่งยาว ไม่สามารถวิ่งยาวได้เท่าที่ตั้งใจไว้ เพราะลงแข่ง minimarathon ซึ่งเมื่อเข้าเส้นชัยแล้วสถานที่ไม่อำนวยให้วิ่งต่อจาก 10K ได้
2) บาดเจ็บจากการใช้ท่าวิ่งใหม่ ข้อเท้าและขาซ้ายบวมแต่ไม่เจ็บ นวดด้วยโวทาเรน อีมัลเจล ตื่นเช้ามาก็หายบวม แต่ทำให้ต้องพักวิ่ง 1 วันด้วยเกรงจะเจ็บซ้ำ และหลังจากนั้นก็ซ้อมเพียงเบาๆ วันละ 6K
3) อาทิตย์ที่ 4 ของตารางฝึก ย้ายสถานที่มาวิ่งบน treadmill เพื่อหวังจะลดแรงกระแทก และพยายามปรับท่าทางการวิ่งให้ถูกต้อง ใช้ความเร็ว 9.5 km/h ถึงกระนั้นก็ยังเจ็บอยู่ดี แต่เปลี่ยนมาเจ็บที่หัวเข่าด้านในแทน

จากปัญหาทั้งหมด ทำให้เราเพิ่งจะวิ่งเต็มระยะ 14K เป็นครั้งแรกในวันนี้ (2 วันก่อนแข่งจริง ^ ^") โดยพยายาม simulate ให้ใกล้เคียงสถานการณ์จริงนั่นคือ พักเดินเพื่อจิบน้ำทุกๆ  2.5K และวิ่งถนอมตัวอย่างยิ่งเพราะกลัวจะเจ็บจนไปไม่ถึงเส้นชัย ใช้เวลาไปทั้งหมด 95 นาที หรือ 6.79 นาที/กิโลเมตร

ไม่น่าเชื่อว่าระยะที่เกินจากปกติแค่ 3.5K จะบั่นทอนกำลังเราได้ถึงเพียงนี้ หัวใจยังเต้นในระดับปกติ แต่ขาประท้วงแทบไม่ยอมก้าวต่อในกิโลเมตรสุดท้าย แม้จะไม่ซีเรียสเพราะอย่างน้อยก็วิ่งครบระยะได้แล้ว แต่ก็ทำให้รู้เลยว่าเรา underestimate การวิ่งระยะไกลขึ้นไปอย่าง Half (และ Full) Marathon มาตลอด คิดเสมอว่าภายใน 2-3 เดือน ถ้าวิ่งตามโปรแกรมฝึกซ้อมเดี๋ยวก็ลงแข่งได้ นั่นอาจเป็นจริง แต่อย่าลืมว่าคำว่า "ตามโปรแกรมฝึกซ้อม" มันหมายถึงการวิ่งที่มีแต่จะยาวขึ้นเรื่อยๆ หมายถึงความบาดเจ็บที่อาจเกิดจากการซ้อม หมายถึงความสม่ำเสมอจริงจังที่จะเกาะติดกับตารางซ้อมโดยไม่ยอมให้อะไรมาเบี่ยงเบน คุณต้องผ่านสิ่งเหล่านี้ให้ได้เสียก่อน ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย

จากนี้อีกสองวันเราคงลดระยะลง แต่จะเปลี่ยนไปวิ่งถนนเพื่อให้ได้ความรู้สึก"ถนนๆ" กลับมา ไม่ใช่ "ลู่วิ่งๆ" แบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ นับวันรอจะได้ไปสามพรานแล้ว อยากรู้ว่าสถิติจะออกมาเป็นยังไง
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...