ผลการฝึกซ้อม Half Marathon อาทิตย์ที่ 8 | 5 comments:

ผลการฝึกเป็นดังนี้

วันจันทร์: พักค่ะ

วันอังคาร: วิ่ง 5 กม., ความเร็ว 6:17 นาที/กม. จริงๆตั้งใจจะวิ่งช้าตามที่กำหนดเพราะรู้สึกว่าเข่าไม่ค่อยปกติ แต่วิ่งๆไปเจอเด็กมาวิ่งประกบ เห็นป้าๆอย่างนี้สงสัยนึกว่าหมู รู้สึกอึดอัดเลยพยายามเร่งหนี พี่แกลากเราไปเกือบ 3 รอบสนามก่อนจะหมดแรงไปเอง (รู้จักเจ๊น้อยไปนะพ่อหนุ่ม หึหึ) แต่ก็ขอบคุณที่ทำให้รู้ว่าวันนี้วิ่งเฉลี่ยที่ 6 นิดๆได้อย่างไม่เหนื่อยเท่าไหร่แล้ว

วันพุธ: งานเข้า อดวิ่ง ยังไม่รู้ว่าอีกสองวันที่เหลือจะได้วิ่งมั้ย T_T

วันพฤหัส: ฮ่าๆๆ อาจารย์ไม่อาจขวางทางรักระหว่างเราและน้องนิว(บาลานซ์)ได้ ออกวิ่งตอนตีหนึ่งกว่าสะใจจริงๆ ข้อดีอย่างใหญ่หลวงของ AIT คือปลอดภัยมาก เพราะเป็นสถานที่ปิด พี่ยามเข้มงวด เคยออกจากคณะตอนตี 2 มาเจอสาวอินเดียเดินออกกำลังส่าหรีปลิวอยู่บ่อยๆ วันนี้สาวไทยขอวิ่งบ้างนะจ๊ะนายจ๋า วิ่ง 5 กม., ความเร็ว 6:30 นาที/กม. จริงๆวันนี้ต้องวิ่ง tempo รวมแล้ว 9 กม. แต่ไม่อยากห้าวเกิน เลยขอสลับเอา easy run ของวันศุกร์มาวิ่งแทน

วันศุกร์: mission fail ! สงสัยจะพักผ่อนน้อยมาหลายวัน ตารางให้ warm up 2 กม.@ easy pace แล้วต่อด้วยวิ่ง tempo 6 กม. แต่วิ่ง tempo ได้แค่ 2 กม. กว่าๆก็เกิดอาการเสียดใต้ชายโครงขวาแล้ว สิทธิการิยะฯท่านว่า ถ้าเป็นเช่นนี้แปลว่าวิ่งเร็วเกินกำลังตัวเอง ให้ผ่อนความเร็วลง ถ้ายังเสียดอยู่ก็ต้องหยุด เราเลยฝืนวิ่ง tempo จนครบ 3 กม., ความเร็ว 6:04 นาที/กม. แล้วก็พอแค่นี้ แต่ยังดีที่พอจะ cool down อีก 1 กม.@ recovery pace  ไหว เป็นครั้งแรกที่ฝึกล้มเหลวอย่างแท้จริง รอแก้ตัววันอาทิตย์ด้วยใจระทึกพลัน

วันเสาร์: วิ่ง tempo 5 กม., ความเร็ว 6:11 นาที/กม. ชดเชยที่เมื่อวานวิ่งไม่ไหว ^ ^

วันอาทิตย์: วิ่งยาว 18 กม., ความเร็ว 6:47 นาที/กม. ลองฝึกตามกลยุทธที่จะใช้ในวันแข่งจริงดู นั่นคือ 10 กม.แรกวิ่งตามความเร็ว long run จากนั้นพยายามเพิ่มความเร็วให้เป็น tempo และ(ในวันแข่ง) เร่งสุดกำลังเมื่อเหลืออีก 3-4 กม. ปรากฏว่าเพิ่มได้แค่กม.ที่ 11-12 เท่านั้น มันไม่ไหวอ้ะ ล้าเกิน กลัววิ่งไม่ครบระยะเลยต้องผ่อนความเร็วลง แต่ก็ยังดีที่ 8 กม.หลังความเร็วดีกว่า 10 กม.แรก เป็นสัญญานอันพึงประสงค์ของการวิ่งระยะไกล