จริงๆอยากตั้งชื่อโพสต์ให้หวือหวากว่านี้ แต่เกรงว่าเวลา search ด้วย search engine แล้วจะหาไม่เจอ เสียดาย อยากให้ได้อ่านกันเยอะๆ เพราะรีวิวนาฬิกาสำหรับนักวิ่งที่เป็นภาษาไทยช่างหายากเสียเหลือเกิน (ไม่นับรีวิวแบบไม่ได้ใช้เองกับมือนะ)
ที่นำ FR110 กลับมารีวิวอีกครั้ง ก็เพราะอยากบันทึกเป็นอนุสรณ์แด่เธอ เจ้าการ์มินน้อยกลอยใจ เนื่องจากสายของเธอได้ขาดลงแล้วอย่างสงบ ในวันที่ 5 กันยายน ศิริรวมอายุได้ 1 ปี 7 เดือนครึ่ง วิ่งเป็นเพื่อนเรามาทั้งหมด 2,616 กม. ...เพียงแค่สายขาด แต่เราอาจจะยกเธอขึ้นหิ้ง เนื่องจากสายของ FR110 ไม่เหมือนของนาฬิกาปกติ มันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับตัวเรือน ไม่มีรอยต่อ ดังนั้นเมื่อขาดแล้วจึงไม่สามารถหาสายใหม่มาต่อเข้าที่ joint นั้น ทำได้อย่างเดียวคือเอากาวแปะ ซึ่งไม่เวิร์คแน่เพราะจุดที่ขาดต้องรับแรงดึงทุกครั้งที่มีการใส่เข้าถอดออก เราพิ'นาแล้วว่า หาเพื่อนใหม่คู่กายง่ายกว่า ส่วนเจ้าหล่อน จงเข้าไปอยู่ใน Hall of Fame ให้ลูกให้หลานได้ดูสืบไปเถิด
อ่านถึงตรงนี้ใครที่ถอดใจว่า งั้นตรูไม่ซื้อละรุ่นนี้ ได้โปรดช้าก่อน เพื่อนเราคนหนึ่งใช้ FR110 เหมือนกันแต่เป็นสีดำคาดแดง การ์มินน้อยของเพื่อนก็เกิดอาการสายขาดอย่างสงบที่ระยะเกือบๆ 3 พันกิโลเมตรเช่นกัน 555+ ...อ้าวจะไปไหนล่ะ กลับมาก๊อนนนท่านผู้อ่าน เราจะบอกต่อว่า แต่เขามีทางแก้สุด cool โดยไม่ต้องเก็บขึ้นหิ้ง ดังภาพ ขอขอบคุณภาพถ่ายจากหนุ่มพิดโลก นิสัยดี มีธรรมประจำใจ มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
แม้ว่า FR110 จะมีสายที่บอบบางเพียงใด (จริงๆอาจไม่ใช่ก็ได้ เราและเพื่อนอาจใช้งานโหดเอง) แต่ความสวยและดีของเจ้าหล่อนทำให้เราตัดสินใจแล้วว่า นาฬิกาเรือนต่อไปที่จะซื้อต้องเป็น FR210 ซึ่งก็คือ FR110 ที่เพิ่มฟีเจอร์นั่นเอง ส่วนฟังก์ชั่นและการเข้าถึง, ดีไซน์ต่างๆ รวมทั้งรูปโฉมภายนอกยังยึดตามโฉมของ FR110 ทุกประการ ต่างกันเพียงไม่มีสีเทาคาดชมพูแล้วสำหรับผู้หญิง แต่เป็นสี
ต้องบอกก่อนว่า การรีวิวนี้ทำโดยข้าพเจ้าซึ่งเป็นนักวิ่งสมัครเล่นแบบจริงจัง ถ้าชีวิตดำเนินไปอย่างปกติ เราจะซ้อมวิ่งอาทิตย์ละ 3-6 วันแ้ล้วแต่ความขยัน เป็นนักวิ่งที่อยากพัฒนาฝีเท้าให้ดียิ่งๆขึ้น ดังนั้นในการซ้อม จึงต้องการการฝึกความเร็วแบบ interval ควบคู่ไปกับการวิ่งต่อเนื่องตามปกติ นอกจากนี้ข้าพเจ้ายังเป็นนักวิ่งที่ค่อนข้างจะจริงจังกับการแข่งขันทุกครั้งด้วย ดังนั้น FR110 ในทรรศนะของเราจึงเป็นดังนี้ (เพื่อให้เห็นความแตกต่าง ขอเปรียบเทียบกับตระกูล 405 ซึ่งมีราคาใกล้เคียงกันเป็นหลัก)
1) เหมาะสำหรับนักวิ่งที่ซ้อมวิ่งแบบธรรมดา ไม่ต้องการซ้อมแบบ interval (ตัวอย่างเช่นวิ่ง 400 เมตร 15 เที่ยว แต่ละเที่ยวคั่นด้วยการ jog 100 เมตร)
เพราะ FR110 ไม่สามารถตั้งโปรแกรม interval training ได้ ถ้าอยากได้ฟีเจอร์นี้ คุณต้องเขยิบไปใช้รุ่น 210 หรือเปลี่ยนซีรี่ส์ไปใช้ตระกูล 405 เลย อันที่จริง 110 ก็ใช้ได้ วิ่งไป- ดูระยะทางไป-กด lap ไป แต่เวลาเหนื่อยมากๆแบบตอนฝึก interval สมองจะมึนงง ตาจะเบลอ กดผิดกดถูก ไม่เวิร์คด้วยประการทั้งปวง
2) สามารถใช้ในการแข่งขันได้ดีพอสมควร
แม้ว่าจะไม่มีฟีเจอร์สำหรับมืออาชีพเหมือน 405 ที่มี Virtual Partner ซึ่งเราสามารถตั้งได้ว่า คู่หูคนนี้วิ่งที่ pace เท่าไหร่ (ซึ่งโดยปกติก็จะตั้งไว้ที่ pace เป้าหมายของการแข่งขัน) เพื่อให้เราคอยเช็คว่าตอนนี้เราวิ่งช้าหรือเร็วกว่าเป้าหมายอยู่มากน้อยแค่ไหน และแม้จะไม่สามารถตั้ง target pace ได้ละเอียดถึงขั้นกิโลต่อกิโล แต่เอาเข้าจริง ในขณะแข่งขัน สิ่งที่เราต้องการจริงๆก็แค่ดูว่าใน lap ปัจจุบัน (ซึ่งอาจตั้งถี่ๆเช่น lap ละ 500 เมตร หรือตั้งห่างๆเป็น lap ละ 1 กม. ก็ได้) เราทำความเร็วเฉลี่ยได้ตามที่ต้องการหรือไม่ เช่นถ้าเราต้องการวิ่ง 10K ให้ได้ภายใน 50 นาที เวลาแข่งก็แค่คอยควบคุมให้ความเร็วเฉลี่ยของแต่ละ lap ไม่เกิน 5 นาที/กม....เท่านั้นเอ๊ง (ถ้าทำได้น่ะนะ)
3) ถึงวิ่งบนลู่ไฟฟ้าในร่มก็ไม่มีปัญหา
ภาพจาก http://garminbicycle.blogspot.com |
แม้ FR110 จะไม่สามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์วัดความเร็วของการ์มินที่เรียกว่า footpod แต่โดยปกติเราก็สามารถรู้ระยะทางและความเร็วจากตัวเลขบนหน้าจอของลู่ไฟฟ้าได้อยู่แล้ว (อาจตรงบ้างไม่ตรงบ้าง แล้วแต่การคาลิเบรตลู่ไฟฟ้า) ดังนั้นจึงต้องการนาฬิกาที่ทำหน้าที่เพียงจับเวลา และบอก heart rate (ถ้ามี HR monitor) เท่านั้น
4) ใช้ง่าย
เนื่องจากมีฟีเจอร์จำกัด ดังนั้นการเข้าถึงฟังก์ชั่นต่างๆจึงไม่ซับซ้อน เรียกว่าเรียบง่ายเลยก็ได้ ด้วยปุ่มกดเพียง 4 ปุ่ม ไม่มีงงแน่นอน และเนื่องจากเป็นปุ่มกด จึงไม่มีอาการงอแงไม่ยอมตอบสนองการใช้เมื่อมือเปียกเหงื่อแบบระบบ Bezel ในรุ่น 405
5) ใส่เป็นนาฬิกาในชีวิตประจำวันได้
ผู้ชายอาจไม่มีปัญหา แต่ผู้หญิงที่มีข้อมือขนาด 13.5 ซม. อย่างข้าพเจ้ามีปัญหามากกับ 405
จะใช้รูถัดไปบนสายนาฬิกาก็ได้ แต่มันทำได้เพียงบีบข้อมือในแนวบนล่าง ส่วนที่ว่างด้านข้างยังเหลือเท่าเดิม เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของตัวเรือนซึ่งมีความยาวเข้่าขั้นอักโข เพราะถูกออกแบบให้ GPS module ฝังอยู่ในส่วนที่เลยออกมาจากหน้าปัด ต่างกับ 110 และ 210 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่กว่า GPS module หดเล็กลงจนตัวเรือนเหลือแค่หน้าปัดกลมๆ เมื่อผูกแล้วจะวางอย่างน่ารักอยู่บนข้อมือพอดี ประกอบกับสายซิลิโคนที่นุ่ม ทำให้แนบไปกับข้อมือได้ แม้เจ้าของมือจะผอมบักโกรกสักเพียงใดก็ตาม (แต่อย่าลืม!!ต้องใช้ด้วยความทนุถนอมนะจ๊ะ เพราะสายมันใจเสาะเหลือเกิน)
อีกจุดหนึ่งที่ทำให้ 110 และ 210 เหมาะจะเป็นนาฬิกาในชีิวิตประจำวันก็คือ มันอึด ไม่ต้องระวังมากว่าจะไปสะกิดสแครชกับวัตถุใด ในขณะที่ 405 (ที่ยืมเค้ามา) ข้าพเจ้าทำบุบไปแล้ว 3 รอย T_T
6) สวย
เรื่องนี้เป็นรสนิยมส่วนบุคคล แต่เราว่า 110 สวยอ้ะ และนี่เป็นปัจจัยสำคัญมากที่ทำให้เราเลือก 210 ซึ่งเป็นญาติผู้น้องของเธอเป็นนาฬิกาเรือนต่อไป สรุปว่า ฟีเจอร์และคุณสมบัติทั้งหมดทั้งมวลไม่สำคัญเท่าความสวย...จบมั้ย!! 555+
========================================================
อันนี้คือรีวิวตอนที่ 1 เขียนไว้ตอนได้นาฬิกามาใหม่ๆ พรรษาวิ่งยังละอ่อน แม้จะมีบางอย่างเด๋อๆ แต่ไม่ลบค่ะ เก็บไว้ดูพัฒนาการของตัวเอง
ผลการทดลองใช้นาฬิกา GPS Garmin Forerunner 110
สนใจนาฬิกาสำหรับนักวิ่งรุ่นอื่นๆ? อ่าน
บันทึกการทดลองใช้นาฬิกา GPS สำหรับนักวิ่ง GARMIN FR10
รีวิวนาฬิกา GPS สำหรับนักวิ่ง GARMIN FORERUNNER 220
มีนาฬิกา GARMIN ในครอบครองแล้ว ? อ่าน วิธีดึงข้อมูลจากนาฬิกา GARMIN โดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์
========================================================
อันนี้คือรีวิวตอนที่ 1 เขียนไว้ตอนได้นาฬิกามาใหม่ๆ พรรษาวิ่งยังละอ่อน แม้จะมีบางอย่างเด๋อๆ แต่ไม่ลบค่ะ เก็บไว้ดูพัฒนาการของตัวเอง
ผลการทดลองใช้นาฬิกา GPS Garmin Forerunner 110
สนใจนาฬิกาสำหรับนักวิ่งรุ่นอื่นๆ? อ่าน
บันทึกการทดลองใช้นาฬิกา GPS สำหรับนักวิ่ง GARMIN FR10
รีวิวนาฬิกา GPS สำหรับนักวิ่ง GARMIN FORERUNNER 220
มีนาฬิกา GARMIN ในครอบครองแล้ว ? อ่าน วิธีดึงข้อมูลจากนาฬิกา GARMIN โดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์
review 610 ให้บ้างนะเจ๊
ReplyDeleteไรกัลๆ ของใครก็รีวิวเอาเองสิท่าน
Deleteหรืออีกที ท่านเอามาให้เจ๊ยื้ม แล้วเจ๊จะรีวิวให้ท่าน
(แต่เตือนไว้ก่อนว่าเราทำ 405ของเอก บุบไป 3 หม่องแล้ว 555+)
แหงมๆๆๆ
ReplyDeleteนาฬิกาใหญ่ หรือ ข้อมือเล็ก อ่ะ....
ReplyDeleteสองประสานจ้ะ
Deleteว่าแต่ทำไมหน้าเบิร์ดมันดำอย่างงั้นล่ะ เป็นสามเหลี่ยมด้วย
นาฬิกาสำหรับใส่ซ้อมและแข่งมาราธอน ซื้อที่ไหนดีครับใน กทม อยากรู้ร้านที่มีให้เลือก น่าเชื่อถือ ราคาดี อยากได้นาฬิกาที่มี GPS ครับ ขอบคุณครับ
ReplyDeleteนาฬิกา GPS สำหรับนักวิ่งมีหลายยี่ห้อค่ะ
Deleteแต่ที่ราคาสมเหตุผล มีฟีเจอร์เหมาะกับการฝึกซ้อม และที่สำคัญมี GPS ที่แม่นยำที่สุด ก็คงไม่พ้น GARMIN นี่แหละค่ะ
แนะนำร้านของตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยเลยค่ะ
เพราะขายราคาเท่ากับเมืองนอก และยังมีบริการหลังขายด้วย
http://www.gpssociety.com/TH/Pages/default.aspx
เสียแต่อาจไม่มีทุกสี เช่น FR210 ก็ไม่มีสีเขียวแบบที่เราต้องการค่ะ
ขอปล.ว่าไม่ได้ค่าโฆษณานะคะ blog นี้เป็นอิสระชนค่ะ
ดูจากสายนาฬิกา 210 แล้ว เหมือน 110 เปี๊ยบเลยนะ.. อีก 2 พันกว่าโล ก็ต้องเปลี่ยนสายอีกหรือไม่ครับ :)
ReplyDeleteน่าจะเป็นเช่นนั้นค่ะคุณโจ้
Deleteต่อไปคงต้องหยอดกระปุกไว้ กิโลเมตรละ 3 บาท พอสายขาดก็ทุบกระปุกเอาเงินไปซื้อใหม่พอดี
และที่น่าตกใจก็คือ เพิ่งรู้ว่า พี่ย้งและใครไม่ทราบอีก 2 คนที่ใช้ 405 ก็เพิ่งสายขาดไปหยกๆเช่นกัน
สรุปคือ จะซื้อรุ่นไหน ก็สายขาดหมด...เง้อ...
แสดงว่าการ์มินออกแบบมาให้สายขาดทุกรุ่น..เพื่อให้ซื้อใหม่ทุก 2 พันกว่ากิโล แต่รู้สึกว่ารุ่น 910 จะเปลี่ยนสายได้นะครับ
Deleteอาจจะเป็นที่คุณสมบัติของวัสดุที่ใช้ทำสายก็ได้มังคะ
Deleteประมาณว่าวัสดุนี้ทนน้ำทนเหงื่อได้ดี แต่มีข้อเสียคือบอบบางนะจ๊ะ
จะเอาไปใช้ ก็ต้องยอมรับสภาพ ไรงี้
ใช่ค่ะ ที่รู้มา 910 กับ 405 เปลี่ยนสายได้
อย่าง 405 การ์มินจะมีชุดคิท เป็นสาย 2 ฝั่ง+ไขควง ราคาชุดละ 20 เหรียญ
ดังนั้นถ้าซื้อ 405 ก็หยอดกระปุกน้อยหน่อย 5 กม. หยอด 1 บาทพอ
โอ้ว นาฬิกาที่เป็นตัวอย่างให้ผมซื้อตาม สิ้นอายุขัยแล้วเหรอเนี่ย
ReplyDeleteนาฬิกาผมมีอายุประมาณ 200 โลละ คงจะค่อยๆเจริญตามรอยรุ่นพี่สินะครับ
ใครเอ่ย จำไม่ล่ายแล้ว ขออภัยอย่างแรงค่ะ _/ \_
Deleteใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง เล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ
I like the valuable info you provide in your articles.
ReplyDeleteI'll bookmark your blog and check again here regularly. I'm quite
sure I will learn lots of new stuff right here! Good luck for the next!
Review my website - ทำ SEO ราคาถูก
Since you can understand the post, I guess you are Thai.
DeleteLet me answer in Thai for other readers' convenience.
ขอบคุณค่ะที่เห็นว่า blog นี้มีประโยชน์และได้เข้ามาอ่านบ่อยๆ
อ่านแล้วมีกำลังใจ
จะพยายามขยันโพสต์ และหาเรื่องที่มีประโยชน์ต่อนักวิ่งมาฝาก ให้บ่อยขึ้นนะคะ
This comment has been removed by the author.
ReplyDeleteชอบรูปที่สาม สวยมากๆ คับ ไม่รู้ว่าจะราคาแพงหรือป่าว
ReplyDeleteขอฝากบทความดี ๆ เรื่องราวดี ๆ ของนาฬิกาหน่อยนะค๊า..บ ติดตามได้ที่ลิงค์ : http://sellledwatch.blogspot.com/ หรือติดตามได้ในเฟสบุ๊คที่ : http://www.facebook.com/Kledwatch และเวปไซด์ : www.skythailandshop.com ขอบคุณค๊าบ
ประมาณ 250 USD ค่ะ มี HRM ด้วย
Deleteถ้าซื้อในเมืองไทยจากตัวแทนจำหน่ายจะมีแต่สีดำล้วน ราคา 7,300 ไม่มี HRM
นาฬิกา LED เก๋ดีค่ะ อ่านยากดี แนวซ้าาาา