Sunday, December 30, 2012

race 31: ขอชิวบ้างอะไรบ้าง (1) | 4 comments:

สิ่งนึงที่อดีตทีมชาติ เจ้าของเหรียญทองแดงวิ่งมาราธอน ซีเกมส์มักบอกกับเราเสมอก็คือ เป็นนักกีฬาจะต้องมีสปิริต สิ่งหนึ่งที่แสดงถึงสปิริตนักกีฬาก็คือ ในทุกการแข่งขัน เราจะต้องทำให้สุดความสามารถ เพื่อให้เกียรติผู้จัดงานและคู่แข่ง จะต้องไม่มีคำแก้ตัวหลังจากพ่ายแพ้ว่า ออมแรงหรือมาวิ่งเล่นๆ ดังนั้น ในช่วงเวลา 1 ปี 3 เดือนที่ได้รู้จักโค้ช เราจึงไม่เคยได้สัมผัสความรู้สึก "วิ่งสบายๆ" เลยสักครั้งเดียว แม้แต่ในช่วงที่อ่อนซ้อม แต่ได้กำหนดตารางแข่งไว้แล้ว เมื่อปรารภกับโค้ชว่ารายการนี้หนูขอวิ่งสนุกๆชมวิวได้มั้ย โค้ชก็ยังยืนยันคำเดิมว่า "เมื่่่อเสียตังค์สมัครแล้วก็ต้องวิ่งให้เต็มที่" ถึงไม่ชนะคนอื่น ก็ต้องชนะตัวเอง

Thursday, December 27, 2012

อาหารว่างสำหรับนักวิ่ง | 11 comments:

ช่วงเวลาบ่ายแก่ๆ ที่อาหารมื้อเย็นยังอยู่อีกยาวไกล การหาของว่างมาถมท้องที่เริ่มส่งเสียงประท้วงถือเป็นเรื่องประเสริฐนักแล 

นักวิ่งทั่วไปมักใส่ใจควบคุมน้ำหนัก การได้กินอาหารมื้อเล็กๆทุกๆ 3-4 ชั่วโมง จะช่วยควบคุมความอยากกิน ไม่ให้พุ่งปรู๊ดปร๊าดจนสวาปามมื้อใดมื้อหนึ่งหนักเกินปกติ นอกจากนี้การได้กินอาหารว่างก่ิอนวิ่งและหลังวิ่ง ยังช่วยให้นักวิ่งมีพลังงานเพียงพอที่จะวิ่งและชดเชยส่วนที่สูญเสียไปกับการวิ่งได้ด้วย 

อย่างไรก็ตาม เราควรเลือกอาหารว่างที่มีประโยชน์ ไม่ใช่จังค์ฟู้ดหรือขนมถุงๆ หลักการคือให้พยายามเลือกอาหารที่ไม่ผ่าน หรือผ่านกระบวนการน้อยที่สุด ตัวอย่างต่อไปนี้คืออาหารว่างที่คัดมาแล้วว่าเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักวิ่ง 

Tuesday, December 18, 2012

3,000 กิโลเมตรแล้วจ้า | 7 comments:

ไม่รู้ว่าด้วยเหตุบังเอิญ หรือว่ามันคือ natural frequency ของข้าพเจ้า แต่ช่วงเวลาจาก 2,000 ถึง 3,000 กม. ช่างใกล้เคียงกับช่วงเวลาจาก 1,000 ถึง 2,000 กม. อย่างเหลือเชื่อ นั่นคืือประมาณ 7 เดือนแก่ๆ 

ที่น่าแปลกใจก็เพราะเราไม่เคยกะเกณฑ์ว่าตัวเองต้องวิ่งให้ได้ระยะทางเท่าไหร่ใน 1 เดือน ได้แต่วิ่งไปแบบไร้กระบวนท่า มากน้อยถี่ห่างขึ้นอยู่กับอารมณ์ แรงบันดาลใจ การงานและอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ด้วยความถี่ธรรมชาติประมาณ 4.35 กม./วัน ทำให้วันนี้ (17 ธันวาคม 2555) เราได้ฉลองสหัสกิโลเมตร อีกคราเป็นรอบที่ 3 แล้ว เย่ๆๆ


สรุประยะทางวิ่งแต่ละเดือนจาก 2,000 กม. ถึง 3,000 กม. ได้ดังกราฟด้านล่าง และที่จะเล่าต่อไปคือเหตุการณ์เบื้องหลังกราฟเหล่านี้


Thursday, November 29, 2012

สูตรวิ่งบนสายพานเพื่อรักษาความฟิต โดย Jeff Galloway | No comments:

มันก็ต้องมีบ้างที่นักวิ่งถนนมีเหตุสุดวิสัยทำให้ไม่สามารถออกไปวิ่งกลางแจ้งได้  ไม่ว่าจะเป็นเลิกงานดึก  สถานที่ไม่เอื้ออำนวย หนาวเกินไป ร้อนเกินไป ฝนตก (อันสุดท้ายนี่ จริงๆแล้ววิ่งได้ไม่มีปัญหา ตามที่พี่กล้วยเคยบอกไว้) แทนที่จะนั่งเซ็งอยู่เฉยๆ เราขอแนะนำท่านให้ไปที่เครื่องวิ่งสายพาน (ถ้าหาได้อะนะ) แล้วใช้มันซะ

วิ่งตากฝน ไม่เป็นหวัด


Jeff Galloway เจ้าของสูตรฝึกวิ่งมาราธอนที่ "เขา" และ "หล่อน"ใช้ ในหนังเรื่อง 42.195 ได้บอกไว้ว่า เครื่องวิ่งสายพานช่วยรักษาความฟิตได้ แต่ไม่ควรวิ่งเหมือนเดิมทุกครั้ง เพราะนอกจากจะน่าเบื่อแล้ว ยังทำให้ศักยภาพไม่ถูกพัฒนาเท่าที่ควรจะเป็นอีกด้วย

เพื่อการนี้ Jeff จึงได้แนะนำการวิ่งบนสายพาน 4 รูปแบบที่แตกต่างกัน ให้นักวิ่งถนนผู้อาภัพ ได้สลับใช้ตามอัธยาศัย เพื่อรักษาความฟิตให้คงอยู่สืบไป จนกว่าเหตุสุดวิสัยจะสิ้นสุดลง

Sunday, November 25, 2012

update จาก endomondo | 4 comments:

ในฐานะที่ใช้ endomondo เก็บสถิติการวิ่งมาฟรีๆเกือบ 2 ปี ในวันนี้เมื่อ endo เริ่ม offer premium member (หรือพูดง่ายๆว่า เก็บตังค์ในกรณีที่ต้องการใช้ feature เทพๆ) เราจึงขอตอบแทนน้ำใจของทีมงาน ด้วยการช่วยขายของ เอ๊ย ช่วยแนะนำสิ่งที่คุณจะได้ เมื่ออัพเกรดเป็น premium member แล้ว

แน่นอนว่า คุณยังสามารถใช้ endomondo เป็น running logbook แบบฟรีได้ เพียงแต่ถูกจำกัดการใช้ feature บางอย่าง ซึ่งผู้ใช้ที่ต้องการเพียงแค่หาที่เก็บสถิติการวิ่งแบบเป็นระบบ สืบค้นง่าย จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ แต่ถ้าคุณยอมจ่ายตังค์ 19.99 USD ต่อปีเพื่ออัพเกรดเป็น premium member สิ่งที่คุณจะได้รับเพิ่มเติมก็หวือหวา น่าสนุกในสายตาข้าพเจ้าซึ่งเป็น serious runner ยิ่งนัก

1) Peer Benchmark

ฟีเจอร์นี้เราชอบที่สุด เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นว่า Personal Best ของเราในการแข่งขันระยะต่างๆ เทียบกับชาวบ้าน อยู่ที่เปอร์เซนไทล์เท่าไหร่ โดยสามารถเลือกได้ว่า "ชาวบ้าน" ที่ว่านี้จะเป็นคนกลุ่มไหน จะเป็นคนทั้งโลก, เฉพาะคนไทย, เฉพาะผู้หญิง หรือเฉพาะคนในกลุ่มอายุเดียวกับเราก็ได้

เปรียบเทียบสถิติกับผู้ใช้ endomondo ทั่วโลก, peer benchmark, endomondo


Wednesday, October 24, 2012

ทำไมวิ่งตอนกลางคืนจึงรู้สึกเหนื่อยกว่าปกติ | 4 comments:

คอลัมน์ Newswire ของ RunnersWorld.com ได้สัมภาษณ์หัวหน้าทีมของงานวิจัยชิ้นหนึ่ง เพื่อเชื่อมโยงผลการวิจัยมาอธิบายปรากฏการณ์ที่นักวิ่งภาคกลางคืนส่วนใหญ่มักเป็นกัน นั่นคือ รู้สึกว่าวิ่งยากกว่าตอนกลางวัน

Thursday, October 18, 2012

race 29-30: Blossom(2) | 3 comments:

 race 29: ADIDAS King of The Road

กาปฏิทินสำหรับงานนี้ไว้นานแล้ว เพราะเป็นการวิ่งเพื่อฉลองครบรอบ 1 ปีที่ได้เจอกันของกลุ่มเพื่อนนักวิ่งจาก endomondo ชาวแก๊งซึ่ง ณ บัดนี้ซ้อมด้วยกันทุกวันเสาร์ ทำงานให้ชมรมด้วยกัน จนกลายมาเป็นเพื่อนสนิทอีกกลุ่มหนึ่งของชีวิต ขอบคุณการวิ่งที่ทำให้ได้มาพบเพื่อน(และพี่)ดีๆ มา ณ ที่นี้

ช่วงเวลา 2 อาทิตย์ก่อนแข่งเราได้ซ้อมเพียง 3 ครั้งเท่านั้นเพราะงานยุ่งมาก แต่ผลการแข่งขันที่พัทยาและความศรัทธาในโค้ชมันทำให้เราแบบ...ไม่ซ้อม...แต่กล้าฮึกเหิม 555+

หลังจากหนังรัก 7 ปีดี 7 หนออกฉายครั้งแรกวันที่ 26 กรกฎาคม งานนี้ก็ออกมารับกระแสพอดี ผลคือคนสมัครเต็มจำนวนทุกระยะ ทั้งหมดประมาณ 6 พันคน!! น่าเสียดายที่ ADIDAS ไม่สามารถใช้โอกาสนี้สร้างความประทับใจแรกให้กับนักวิ่งที่กำลังตื่นตาตื่นใจกับโลกใบใหม่ที่ไม่มีใครอยากเดินใบนี้ได้ เพราะปีนี้เกิดเปลี่ยนใจใช้ organizer ที่ไม่เคยจัดงานวิ่งมาก่อน(จัดแต่งานประเภทอื่น) ทำให้เกิดข้อผิดพลาดมากมาย ที่ไม่บ่นไม่ได้คือ น้ำขาด ระยะทาง 16.3 กม. เราได้ดื่มน้ำแบบปกติเพียง 2 จุดเท่านั้น อีกหนึ่งจุดหลังกลับตัวไม่มีแก้ว ให้นักวิ่งที่มั่นใจในภูมิต้านทานไวรัสยกเหยือกซดเอาเอง(เราเป็นหนึ่งในนั้น) ส่วนจุดที่เหลือมีแต่โต๊ะเปล่าๆ โชคดีที่ปล่อยตัวเช้ากว่างานทั่วไป อากาศยังเย็นทำให้ไม่กระหายน้ำมากนัก

อย่างไรก็ตาม มีเรื่องที่ไม่ชมไม่ได้เช่นกัน นั่นคือเส้นทางวิ่งดีมาก ปิดถนนและสะพานสาทรครึ่งหนึ่งให้วิ่งแบบสบายๆ จุดที่ต้องข้ามแยกก็กักรถได้ดี ไม่ต้องรอไฟแดงแบบงานปีที่แล้ว บวกกับพื้นถนนที่ดี ภูมิประเทศที่ส่วนมากเป็นทางราบ มีสะพานที่ไม่ชันมาก เราจึงทำความเร็วได้อย่างน่าพอใจใน 12 กม.แรก...แล้วทำไมจึงไม่พอใจทั้ง 16 กม.ล่ะ ?...เรื่องมันก็มีอยู่ว่า...

KOTR 2012 หน้าสวนลุม

Monday, October 8, 2012

race 27-28 : Blossom(1) | 4 comments:

race 27: งานวิ่งเครือข่ายครอบครัว
หลังจากกลับสู่ถนนสายนักสู้อีกครั้ง เชื่อมั่นในตัวเองอีกครั้ง อะไรๆก็เริ่มดีขึ้น แม้ว่าเวลา 10K ยังกลับคืนฟอร์มไปสู่สถิติเดิมที่เคยทำไว้เมื่อครึ่งปีที่แล้วไม่ได้ แต่ก็มีพัฒนาการ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือฉันทะ เมื่ออยากเก่งก็ทำให้ขยันซ้อม ขณะอยู่ในสนามแข่งก็พยายามทำเวลาให้ดีที่สุด ไม่ปล่อยให้ความคิดประเภท "ผ่อนหน่อยก็ได้ ไม่มีใครบังคับให้วิ่งเร็วซักหน่อย" หรือ "วิ่งยังไงก็ไม่ติดถ้วยอยู่แล้ว จะรีบไปทำไม" หรือ "วันนี้ขอวิ่งเร็วทำ new PB 5K พอ ที่เหลือชิวๆดีกว่า เหนื่อยวุ้ย" ที่มักแว้บเข้ามาในสมองเป็น infinite series มาทำให้ไขว้เขว

อีกประการที่ทำให้วิ่งได้ดีคือความคุ้นเคยกับสนามและการสำรวจเส้นทางก่อนแข่ง การที่ต้องวิ่งทั้งๆที่ไม่รู้ว่าอะไรรออยู่ข้างหน้าอาจทำให้ท้อแท้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสนามที่มีการสับขาหลอก ให้วิ่งไปเกือบถึงเส้นชัยแต่แล้วกลับให้เลี้ยวหนีไปอีกทางแบบสนามกระทรวงสาธารณสุขนี้  คนที่คิดว่าใกล้ถึงแล้วก็จะใส่หมดแม้ก แต่พอรู้ความจริงว่าต้องวิ่งอีก 2 กม. อาจถอดใจหรือยางแตกไปแล้วก็ได้ นี่เป็นความสำคัญของการสำรวจเส้นทาง ซึ่งนักวิ่งประเภทที่ให้ความสำคัญกับสถิติพึงกระทำ ถ้าไปดูสถานที่จริงไม่ได้ก็ควรดูจากแผนที่ตามโบรชัวร์ หรือจะให้ดีกว่านั้นก็ดูจาก google map จะได้ปักหมุดแต่ละกิโลเมตรไว้ในใจล่วงหน้า และวางแผนวิ่งให้สอดคล้องกับพื้นที่



Friday, October 5, 2012

SIGNS | 16 comments:

เคยดูหนังของพี่มาโนชเรื่อง signs กันมั้ยคะ หนังที่หลายคนเซ็งเพราะนึกว่าเป็นเรื่องของเอเลี่ยนบุกโลกแบบ ID4 อีกหลายคนเซ็งเพราะคิดว่าจะหักมุมแบบ The Sixth Sense... ไม่ค่ะ มันเป็นหนังสร้างแรงบันดาลใจที่ห่มทับด้วยหน้าหนังลึกลับสยองขวัญ เป็นหนึ่งในทำเนียบหนังในดวงใจตลอดกาลของเราเลยทีเดียว


ความบังเอิญมีจริงหรือในโลกนี้ โดยเฉพาะสิ่งที่เราเรียกว่า"โชค"... ใช่หรือไม่ ว่ามันคือผลผลิตของทุกการกระทำและทุกความคิดทั้งในอดีตและปัจจุบันของเราบวกกับการเตรียมตัวให้คู่ควรที่จะได้รับโชคนั้น
..........................

Wednesday, September 19, 2012

รีวิวนาฬิกา GPS สำหรับนักวิ่ง GARMIN FR110 (ภาค 2) | 18 comments:

จริงๆอยากตั้งชื่อโพสต์ให้หวือหวากว่านี้ แต่เกรงว่าเวลา search ด้วย search engine แล้วจะหาไม่เจอ เสียดาย อยากให้ได้อ่านกันเยอะๆ เพราะรีวิวนาฬิกาสำหรับนักวิ่งที่เป็นภาษาไทยช่างหายากเสียเหลือเกิน (ไม่นับรีวิวแบบไม่ได้ใช้เองกับมือนะ)

ที่นำ FR110 กลับมารีวิวอีกครั้ง ก็เพราะอยากบันทึกเป็นอนุสรณ์แด่เธอ เจ้าการ์มินน้อยกลอยใจ เนื่องจากสายของเธอได้ขาดลงแล้วอย่างสงบ ในวันที่ 5 กันยายน ศิริรวมอายุได้ 1 ปี 7 เดือนครึ่ง วิ่งเป็นเพื่อนเรามาทั้งหมด 2,616 กม. ...เพียงแค่สายขาด แต่เราอาจจะยกเธอขึ้นหิ้ง เนื่องจากสายของ FR110 ไม่เหมือนของนาฬิกาปกติ มันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับตัวเรือน ไม่มีรอยต่อ ดังนั้นเมื่อขาดแล้วจึงไม่สามารถหาสายใหม่มาต่อเข้าที่ joint นั้น ทำได้อย่างเดียวคือเอากาวแปะ ซึ่งไม่เวิร์คแน่เพราะจุดที่ขาดต้องรับแรงดึงทุกครั้งที่มีการใส่เข้าถอดออก เราพิ'นาแล้วว่า หาเพื่อนใหม่คู่กายง่ายกว่า ส่วนเจ้าหล่อน จงเข้าไปอยู่ใน Hall of Fame ให้ลูกให้หลานได้ดูสืบไปเถิด

นาฬิกา GPS garmin FR110, ผู้หญิง


Wednesday, September 12, 2012

สาส์นแด่นักวิ่งหน้าใหม่ | 3 comments:

ตั้งแต่หนังเรื่อง รัก 7 ปี ดี 7 หน ตอน 42.195 ออกฉาย เพื่อนนักวิ่งทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สนามซ้อมของแต่ละคนมีนักวิ่งหน้าแปลก เอ๊ย หน้าใหม่ เพิ่มขึ้นอย่างผิดหูผิดตา สอดคล้องกับสถิติผู้เข้าชม blog ของเราซึ่งเพิ่มพรวดพราดจากวันละ 40-50 ครั้ง (จุ๋มจิ๋มอย่างยิ่ง น่าอายจัง แหะๆ)  เป็นประมาณวันละ 100 ครั้งต่อเนื่องยาวนานเป็นเดือน นับจากวันแรกที่หนังออกฉายอย่างเป็นทางการ


นอกจากนี้ งานวิ่งเกร๋ๆในเมืองอย่าง ADIDAS King of the Road ที่จัดในเดือนกรกฎาคม ขณะที่กระแสแรงสุดๆ ยังเกิดปรากฏการณ์คนสมัครเต็มจำนวนจนหลายคนต้องอกหักเพราะโดนมั่วเอาชิปไปขายคนอื่น  อีกทั้งน้ำก็ขาด เพราะคลื่นมหาชนนักวิ่งล้นหลามเกินระบบจะรองรับ ในงานอินเตอร์ต่อๆมาเช่น Bangkok Post Minimarathon หรือ TMB Park Run ก็ได้อานิสงส์จากกระแสนี้ไม่ต่างกัน

ข้อสังเกตทั้งสองประการนี้ (นั่นคือคนออกมาหัดวิ่งมากขึ้น และออกมาร่วมงานวิ่งมากขึ้น) ทำให้เราสรุปได้ว่า กระแสจากหนังปลุกให้คนออกมาเริ่มต้นหัดวิ่งเพื่อลงแข่งขันมาราธอนในท้ายที่สุด แบบเดียวกับที่"หล่อน"ทำนั่นเอง (แต่อาจไม่มีเทรนเนอร์ที่ยิ้มกระชากใจเท่านิชคุณเท่านั้น)

Tuesday, August 7, 2012

race 26: back on track | 6 comments:

วิ่งผลัด 2:30 ชม. Ultra Marathon สวนพฤกษ์ 2012

เป้าหมายที่ชัดเจน ท้าทายแต่เป็นไปได้ และความต้องการที่จะบรรลุเป้าหมายนั้นอย่างไม่มีอะไรมาเทียบเทียม (กำลังพยายามอธิบายคำภาษาอังกฤษว่า No compromise) สองสิ่งนี้เราบอกแก่เพื่อนนักวิ่งหน้าใหม่หลายๆคนที่กำลังฝึกเพื่อเพิ่มระยะทางขึ้นสู่ระดับมินิมาราธอนหรือฝึกเพื่อสถิติใหม่อยู่เสมอ เพื่อเป็นคาถาสำหรับก้าวข้ามอาการท้อแท้ หรือหมดไฟในการวิ่ง นอนนิ่งจมปลัก ไม่ได้จำใครมาแต่เป็นประสบการณ์ตรงที่พบและผ่านมาแล้วหลายครั้งหลายหนในระยะเวลาเกือบ 2 ปีของชีวิตการเป็นนักวิ่งของเรา



Sunday, August 5, 2012

ชงเองกินเอง 4: มายองเนสโฮมเมดสูตรไม่หวานและทาทาร์ซอส | No comments:

อาหารก่อนวันวิ่งแน่นอนว่าต้องเน้นคาร์โบไฮเดรต แต่ก็ต้องมีโปรตีนและผักผลไม้ร่วมด้วย โปรตีนที่เหมาะสำหรับนักวิ่งควรเป็นเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่าย เพื่อไม่ให้หลงเหลืออยู่ในท้องตอนวิ่ง ส่วนรสชาติก็ควรเป็นอาหารรสไม่จัด ป้องกันอาการเสาะท้อง แสบท้อง (ข้าพเจ้าชอบลืมตัว กินของแซ่บๆตอนเย็นวันเสาร์เป็นประจำ กินเสร็จแล้วเพิ่งคิดออก อยากเขกหัวตัวเองอยู่บ่อยครั้ง) ตัวเลือกที่เหมาะสมจึงเป็นปลาและสลัด

แต่น้ำสลัดที่ขายในตลาดเมืองไทยมันช่างหวานแสบทรวงเหลือเกิน นักวิ่งคนนี้ไม่อยากอ้วนฮ่ะ จึงลงมือทำมายองเนสเองซะเลย สูตรนี้ เป็นสูตรที่ใช้ในโรงแรม คุณภาพวัตถุดิบอาจสู้ไม่ได้ แต่รสชาติได้รับการ approve จากอดีตเชฟที่เป็นคุณอาของเราเรียบร้อยแล้วค่ะ

Monday, July 2, 2012

race 23-25 : วิ่งมินิไปงั้นๆ | No comments:

race 23 : Thailand International Half Marathon ครั้งที่ 1 (แต่ข้าพเจ้าลงมินิ)

เป็นไข้เพราะเล็บขบเลยไม่ได้ซ้อม แข่งทั้งป่วยๆนี่แหละ เป็นงานแรกที่พยายามใช้ท่าวิ่งที่เรียนมาจากโค้ช กิโลเมตรแรกเลยเร็วปรื๋อ ประกอบกับพยายามรอออกตัวที่แถวแรกๆ เลยได้เห็นบรรยากาศการวิ่งของแนวหน้า(และแถวสอง)ก็ครั้งนี้ เห็นน้องเบสอยู่ข้างหน้าแว็บๆ แล้วก็ค่อยห่างออกไปเรื่อยๆ ผ่านไปแค่ 2 กม. เราก็หมด ท่าดีแต่หัวใจแข็งแรงตามไม่ทัน ทำเวลาไม่ดีแต่ก็พอใจแล้วเมื่อเทียบกับสภาพร่างกาย เสียดายนิดหน่อย ถ้าใจสู้กว่านี้อาจติดถ้วย เพราะกลับมาดูวิดีโอแล้วข้าพเจ้าได้ที่ 6 ของกลุ่มอายุ T_T

10K = 58:03 นาที



Sunday, June 24, 2012

ชงเองกินเอง 3: สปาเกตตี้โบโลเนส | 2 comments:

ทำไมข้าพเจ้าทำแต่พาสต้าหว่า 555+ จริงๆก็ทำกินเองหลากหลายนะ แต่อาหารที่จะนำเสนอแก่นักวิ่งจะมีอะไรเหมาะไปกว่าพาสต้าอีกเล่า เพราะเป็นได้ทั้ง pre-race และ post-race meal

กรณี pre-race ดูได้จากงานวิ่งอินเตอร์ในเมืองไทยบางแห่งจะมีพาสต้าปาร์ตี้ นั่นคือการเลี้ยงอาหารเย็นแก่นักวิ่งด้วยพาสต้าและอาหารคาร์โบไฮเดรตสูงอื่นๆ เพื่อเป็นพลังงานในการวิ่งวันพรุ่งนี้ ส่วนกรณี post-race ก็เห็นได้จากซุ้มอาหารแจกนักวิ่งที่จำพวก ข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยว ข้าวขาหมู ข้าวไข่เจียว นั่นคือเป็นอาหารคาร์บสูงเช่นกันเพื่อชดเชยพลังงานที่เสียไปจากการวิ่ง ซึ่งถ้าได้กินในช่วงเวลา carbohydrate window (ไม่เกิน 60 นาที หรือถ้าจะให้ดีควรอยู่ในช่วง 15-30 นาทีหลังออกกำลังกาย) กล้ามเนื้อจะสามารถแปลงอาหารเหล่านี้เป็นไกลโคเจนได้เร็วกว่าช่วงเวลานอก window ถึง 3 เท่า ทำให้ร่างกายฟื้นสภาพได้อย่างรวดเร็ว

เมนูนี้รับประกัน fool proof ไม่ต้องจำปริมาณส่วนผสมเป๊ะๆ ดูดีมีชาติตระกูล ขอแค่มีหม้อตุ๋นใครทำก็อร่อยแน่นอน (คลิกที่รูปเพื่อขยาย)




Sunday, June 10, 2012

ท่าวิ่ง version 1 | 2 comments:

ที่เห็นในคลิปคือท่าวิ่งของเราขณะ pace ประมาณ 5:10 นาที/กม.
หลังจากปรับมาแล้วหลายรอบ ก็ยังมีจุดบกพร่องอีกมากเช่น
- ขาไม่ครบวง
- ยกแขนสูง
- ตัวไม่โน้ม
-ไหล่ยังส่ายนิดหน่อย
-ลงเต็มเท้า ไม่ใช่ตำแหน่ง BOF

แต่จะพักการปรับท่าวิ่งไว้ก่อน เพราะท่าวิ่ง version 1 นี้ แข่งเสร็จแล้วไม่เจ็บ วิ่งได้สบาย และลื่นไหลในระดับหนึ่งแล้ว 
ถ้ามีการปรับท่าเป็นเวอร์ชัน 2 จะนำมาลงเปรียบเทียบให้ดูความแตกต่างต่อไปค่ะ



*** Update 25/9/2556***
ท่าวิ่ง version 2 ออกมาแล้วนะคะ อยากรู้ว่าหนึ่งปีผ่านไปมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างตามไปดูกันได้ที่
http://oorrunningblog.blogspot.com/2013/06/version-2.html

Tuesday, May 29, 2012

โรคของนักวิ่ง: เป็นไข้เพราะเล็บขบ | 5 comments:

เคยภูมิใจนักหนาว่าตั้งแต่วิ่งมา 1 ปีกับอีก 6 เดือน เราไม่เคยเป็นหวัดเลย ไม่ว่าจะระบาดในที่ทำงานหรือเกิดกับคนในครอบครัวที่ใกล้ชิดซักกี่ครั้ง เราก็รอดเสมอ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เราเป็นหวัดง่าย เป็นบ่อย เป็นนาน เคยคิดเล่นๆว่า ชีิวิตนี้ถ้ายังคงวิ่งอยู่ จะมีเงื่อนไขหรือการระบาดครั้งไหนน้าที่จะทำให้เชื้อหวัดเอาชนะภูมิต้านทาน เข้ามาปักธงในตัวเราได้

และแล้วในเช้าวันหนึ่ง เราก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกว่า วันนั้นได้มาถึงแล้ว เรามีไข้ต่ำๆ รู้สึกเหนื่อยในอกแบบบรรยายไม่ถูก ซึ่งเราคุ้นเคยดีว่า อีกไม่นานมันต้องตามมาด้วยอาการที่แถวขอนแก่นบ้านเราเรียกว่า "ขี้มูกกื้ด" นั่นคือ มีน้ำมูกใสไหลพรั่งพรูจนต้องคอยสูดกลับจนเกิดเสียงดังกื้ดๆ  แล้วจากนั้นจะหนักขึ้นหรือทรงๆก็แล้วแต่ความโหดของเชื้อโรคและความแข็งแรงของร่างกาย ไปลุ้นต่อเอาเอง


Saturday, May 26, 2012

2000 กิโลเมตรแล้วจ้า | 2 comments:

หลังจากวิ่งครบ 1,000 กม.ไปเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2554 ผ่านไปเจ็ดเดือนกว่าก็วิ่งถึงหลัก 2,000 กิโลเมตรจนได้ในวันที่ 29 เมษายน 2555 (ลืมแคปภาพไว้ ที่เห็นคือระยะทางรวมนับถึงวันนี้)


สรุประยะทางวิ่งแต่ละเดือนจาก 1,000 กม. ถึง 2,000 กม. ได้ดังกราฟด้านล่าง และที่จะเล่าต่อไปคือเหตุการณ์เบื้องหลังกราฟเหล่านี้

คลิกที่ภาพเพื่อขยาย


Monday, March 19, 2012

สมันน้อยสอยพยัคฆ์: นวัตกรรมของงานวิ่ง | 11 comments:

นักวิ่งแนวหลังประเภทมาวิ่งกินลมชมวิวอาจไม่อิน
แต่นักวิ่งแนวกลาง นักวิ่งอันดับ 6 งานนี้ ไม่น่าพลาด


สมันน้อยสอยพยัคฆ์ คือชื่องานวิ่งที่จัดขึ้นโดยนักวิ่งระยะไกลสมัครเล่นกลุ่มหนึ่ง ที่รวมตัวพูดคุย แบ่งปันความรู้กันทางเฟสบุ๊ค และนัดเจอกันทุกอาทิตย์เพื่อฝึกซ้อมร่วมกัน ภายใต้ชื่อกลุ่ม สถาวรรันนิ่งคลับ เพื่อเป็นเกียรติแก่โค้ชสถาวร จันทร์ผ่องศรี อดีตนักวิ่งมาราธอนทีมชาติไทย เหรียญทองแดงซีเกมส์ ที่สละเวลามาให้ความรู้ ตารางฝึก และกระทั่งมาดูแลแนะนำการฝึกซ้อม

แนวคิดคร่าวๆของงานนี้ก็คือ จะมีการให้แต้มต่อทำนองเดียวกับการแข่งขันกอล์ฟ โดยใครมีแต้มต่อมากก็ปล่อยตัวไปก่อน ใครเป็นแนวหน้าก็ปล่อยตัวทีหลัง จากนั้นก็ไปวิ่งไล่กันเอาเอง สมันน้อยถ้าอยากมีชีวิตรอด เมื่อได้ยินฝีเท้าพยัคฆ์ดังใกล้เข้ามาเบื้องหลัง ก็ต้องเร่งสุดกำลัง ส่วนพยัคฆ์ถ้าไม่อยากเสียฟอร์ม ก็ต้องพยายามไล่เก็บสมันให้จงได้ การแข่งจึงน่าจะสูสี ชวนลุ้นระทึกเป็นอย่างยิ่ง เป็นงานแรกที่นักวิ่งแนวกลาง หรือสมันน้อย จะมีโอกาสได้วิ่งเคียงคู่สูสี และอาจถึงกับสอยพยัคฆ์แนวหน้าเลยก็เป็นได้...




ติดตามผลการแข่งขันได้ที่นี่ เร็วๆนี้ค่ะ

Friday, March 16, 2012

วิธีส่งสาส์นลับแบบนักวิ่ง | 2 comments:

หลังเข้าเส้นชัย งานวิ่งบางแห่งจะมีการแจกกล้วยหอม
รู้หรือไม่ ว่าท่านสามารถใช้โอกาสนี้ส่งสาส์นลับ (เช่น จดหมายรัก หรือจดหมายทวงหนี้) ให้แก่เป้าหมายที่เป็นนักวิ่งด้วยกันแบบ "น่ารักอ้ะห์" ได้
ถ้าเป็นจดหมายรัก สาวเจ้าก็คงประทับใจในความโรแมนติก
ถ้าเป็นจดหมายทวงหนี้ ลูกหนี้ก็คงเกรงใจความคิกขุของท่าน รีบเอาเงินมาคืนโดยพลัน

วิธีก็คือ หาวัตถุปลายแหลม อาจเป็นไม้จิ้มฟันแบบในรูป (ซึ่งท่านอาจต้องเตรียมมาเอง เพราะในงานวิ่ง ไม่น่าบริการดีถึงขนาดมีไม้จิ้มฟันแจกด้วย) หรือเข็มกลัดติดเบอร์วิ่ง (ซึ่งอันนี้ท่านคงมีแหละ ถ้าไม่ได้แอบมาวิ่งฟรี) ขีดเขียนความในใจของท่านลงไปบนเปลือกกล้วยหอมซะ



Sunday, February 19, 2012

กราฟพัฒนาการผลการแข่งขันระยะ Half marathon ของข้าพเจ้า | 4 comments:

Definition: ในที่นี้ขอใช้สถิติ ณ ระยะ 20 กม.แทนระยะ 21.1 กม.เนื่องจากการแข่งขันบางรายการที่ระบุว่าเป็น Half marathon เอาเข้าจริง ระยะขาดไปมาก

คลิกที่รูปเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

จุดบนกราฟที่มีหมายเลขสีแดงกำกับหมายถึงสถิตินั้นเกิดขึ้นในการแข่งขัน ส่วนจุดที่ไม่มีหมายเลขกำักับแสดงว่าเกิดขึ้นในการฝึกซ้อม
เราแข่ง Half Marathon มาแล้วทั้งหมด 5 ครั้ง ดังนี้ (คลิกดูรายละเอียดแต่ละครั้งได้)
(1) อ่าวดงตาล
(2) วิ่งผลัด Ultramarathon สวนพฤกษ์
(3) บ้านแพ้ว
(4) 100 ปี กระทรวงคมนาคม
(5) กรุงเทพมาราธอน

เริ่มแข่ง Half Marathon ครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2511 2554 ที่อ่าวดงตาล อากาศเย็นสบาย วิ่งไม่กดดัน ทำให้ทำเวลาได้น่าพอใจแม้เส้นทางจะโหดมากก็ตาม ครั้งที่ 2 คือการแข่งวิ่งผลัด ผลัดละ 2:30 ชั่วโมง ฝนตก และเร่งช่วงแรกมากเกินไปจึงทำเวลาได้ไม่ดีนัก หลังจากนั้นเราแขนหัก ทำให้ช่วงเดือนมิถุนา-สิงหาไม่ได้ลงแข่งระยะ Half เลย เรากลับมาแข่งอีกเป็นครั้งที่ 3 ที่บ้านแพ้ว ซึ่งที่นี่เป็นสถิติที่ดีที่สุดของเรา เนื่องจากช่วงนั้นซ้อมวิ่งยาวอย่างจริงจัง เพราะตั้งใจจะลงมาราธอนปลายปี นอกจากนั้นยังมีการวางแผนวันแข่งจากโค้ชด้วย
จะเห็นว่าหลังจากนั้น สถิติ 20K ของเราก็ไม่มีพัฒนาการเลย
-เดือนตุลา ไม่ได้ลงแข่ง สถิติที่เห็นเกิดจากการซ้อมวิ่งยาว ระยะ 25 กม.
-เดือนพฤศจิกา น้ำท่วม ไม่ได้วิ่งยาว
-เดือนธันวา กลับมาซ้อมที่คอนโด สถิติที่เห็นคือการซ้อมวิ่ง 20K ความเร็ว Tempo
-หลังจากนั้นเนื่องจากบาดเจ็บตลอดเวลา และสถานที่ซ้อมไม่เอื้ออำนวย ทำให้ซ้อมน้อยมาก-ไม่ได้ซ้อมเลย ผลการแข่งขันครั้งที่ 4 และ 5 จึงสาละวันเตี้ยลง และเตี้ยลง อย่างที่เห็น

จึงนำมารวบรวมเอาไว้เป็นกราฟเพื่อเตือนใจ และสร้างแรงบันดาลใจให้ตนเอง ด้วยประการฉะนี้แล

Saturday, February 18, 2012

race 21-22: วิ่งฮาล์ฟไปงั้นๆ | 2 comments:

race 21: วิ่งสามัคคี 100 ปี คมนาคมรวมใจ

วิ่งทั้งๆที่ไม่ได้ซ้อม เพราะเจ็บกล้ามเนื้อหน้าขา เพิ่งจะหาย แต่เพราะอยากวิ่งบนทางด่วน ข้ามสะพานกาญจนาภิเษก และเห็นรูปปั้นช้างเอราวัณจากมุมสูง เลยตัดสินใจลงฮาล์ฟ ก่อนแข่ง 7 วัน ไม่ได้วิ่งเลยแม้แต่เมตรเดียว

จุดสตาร์ท

Sunday, January 22, 2012

วิ่งไปอ่านไป 1: เย็นวันเสาร์-เช้าวันอาทิตย์ | 14 comments:

ผู้แต่ง: คามิน คมนีย์

คุณใช้พิธีกรรมใดในการเริ่มต้นชีวิตใหม่
คนที่อยากฟื้นจากอาการอกหักอาจจะ make over แปลงโฉมหัวจรดเท้า
คนที่เพิ่งกลับเนื้อกลับตัวจากอบายมุข อาจจะไปบวช ศึกษาพระธรรมซักพรรษา
บัณฑิตจบใหม่อาจจะแบ็คแพ็ค เที่ยวประเทศชิคๆซักประเทศให้สาสมกับที่เรียนไม่ได้ลืมหูลืมตามาหลายปี

คามิน คมนีย์ เป็นอีกคนที่ต้องการเริ่มต้นชีวิตใหม่
ชีวิตที่ไม่มีเจ้านายประเภทที่ประจานลูกน้องด้วยเรื่องขี้ผงต่อหน้าคนเป็นสิบ
ชีวิตที่ไม่ทำให้เคร่งเครียดและอ้วนอืด จนอาจเส้นเลือดในสมองแตกตายก่อนที่จะได้ทำสิ่งที่ชอบๆ
ชีวิตที่ใฝ่ฝันมานานปีแต่ก็เฝ้าผัดผ่อนเพราะเกรงจะอดตาย ด้วยว่าอาชีพของชีวิตในฝันนี้คือ...นักเขียน
คามินมีพิธีกรรมในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เฟี้ยวกว่าใคร
...เขาวิ่ง...




Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...