1,000 กิโลเมตรแล้วจ้า | 2 comments:

ในที่สุดเราก็วิ่งครบ 1,000 กิโลเมตรแรกแล้ว เมื่อวาน (6 กันยายน 2554) เย่!!!
เริ่มเก็บสถิติลง Endomondo เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2554 ศิริรวมแล้ว 233 วัน เฉลี่ยแล้ววิ่งได้วันละ 4.29 กม. (ทำไมมันน้อยนักล่ะ แง้ว)

ระยะวิ่งของแต่ละเดือน มากที่สุดในเดือนมีนาคมเนื่องจากเดือนนั้นวิ่งยาว 16 กม. ขึ้นไปทุกวันอาทิตย์  เพื่อเตรียมตัววิ่ง half marathon ครั้งแรกในชีวิต วิ่งน้อยที่สุดในเดือนพฤษภาคมเพราะแขนหัก ต้องหยุดวิ่งไปเกือบ 3 อาทิตย์

1,000 ก.ม. นี้ทำให้ร่างกายเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีคือป่วยน้อยลงมากๆ ตั้งแต่ต้นปี จำได้ว่าเป็นหวัดแค่ครั้งเดียว จากที่เมื่อก่อน ใครเป็นหวัดฉันเป็นด้วย และถึงใครไม่เป็นฉันก็จะเป็น ฮ่าฮ่า แข็งแรงขึ้น อันนี้แน่นอน น้ำหนักคงที่ กินได้อย่างมีความสุข ไม่ต้องคอยกินแต่สลัด แบบที่สาว 30+ ผู้กลัวอ้วนเค้าทำกัน

แต่ในทางกลับกัน เรากลายเป็นลูกค้าประจำของโรงพยาบาล ตั้งแต่เล็บห้อเลือดต้องไปให้หมอเจาะเล็บบีบเลือดออก เอ็นข้อเท้าอักเสบ ขาบวม เดินลงน้ำหนักไม่ได้ไป 5 วันเพราะวิ่งเยอะและพื้นวิ่งแข็งเกินไป ล่าสุดจากการใส่รองเท้าวิ่งไม่เหมาะสมและวิ่งตากฝนทำให้นิ้วเท้าบวมจนเล็บขบและเป็นหนอง ก็ต้องไปให้หมอถอดเล็บตรงข้างๆออก นี่ยังไม่รวมแขนหักอีกนะ (อันนี้ไม่เกี่ยวกับการวิ่ง) เรียกว่าใช้ประกันสุขภาพคุ้มสุดๆเลย

อย่างไรก็ตามจะเห็นว่า อาการบาดเจ็บทั้งหลายที่เกิดขึ้น เราสามารถป้องกันได้ทั้งนั้น เช่นใส่รองเท้าวิ่งที่เหมาะสมไม่บีบนิ้ว ตัดเล็บให้ถูกวิธี เลือกวิ่งในที่ๆมีแสงสว่างเพียงพอเพื่อหลีกเลี่ยงการลงน้ำหนักผิดพลาด เลือกวิ่งบนพื้นผิวที่เป็นมิตรกับเท้าเช่น ถนนราดยางที่ไม่ผุ หรือสนามยางสังเคราะห์ ประการสุดท้ายคือต้องสังเกตตัวเอง ถ้าเริ่มอาการไม่ค่อยดีอย่าฝืนวิ่ง ให้พักจนกว่าจะหายหรือรีบปรึกษาหมอ การทำเช่นนี้แม้จะต้องหยุดวิ่ง แต่ก็เสียเวลาน้อยกว่าปล่อยไว้จนเจ็บจริง แล้วต้องรักษาอย่างเต็มรูปแบบแน่นอน

เราไม่ใช่นักวิ่งเพื่อสุขภาพค่ะ ยอมรับว่าเลยจุดนั้นมาแล้ว เราต้องการวิ่งให้ถึงฟูลมาราธอนเพื่อพิสูจน์ตัวเอง ต้องการทำเวลาในทุกระยะให้ดีขึ้น อยากแข่งขัน อยากสู้ ดังนั้นพร้อมๆกับการเก็บระยะทาง เราจึงฝึกฝนเพื่อให้ความเร็วดีขึ้นด้วย และนี่คือพัฒนาการในระยะ 10K ของเรา

ตอนนี้สถิติที่ดีที่สุดคือ 56:45 นาที เป้าหมายคือ 52 นาที ถ้าถึงเมื่อไหร่จะเขียนเล่าประสบการณ์ให้ฟังค่ะ

ก่อนจบขอขอบคุณนาฬิกา Garmin FR110 ที่แม้จะมีฟังก์ชั่นอันแสนเบสิคแต่ก็ไม่เคยงอแง ถึกทนทานทำให้เราสนุกกับการวิ่งเพื่อเก็บระยะทาง ขอบคุณ Endomondo ที่สร้าง interface สวยๆ และการประมวลผลที่จูงใจให้เราพัฒนาตัวเอง และสุดท้ายขอบคุณเพื่อนๆใน Endo ที่เป็นกำลังใจและเป็นคู่แข่งที่แสนจะท้าทาย เดือนนี้มาแข่งกันต่อนะ อิอิ

หลักไมล์อื่นๆในชีวิตนักวิ่งของข้าพเจ้า
2000 กิโลเมตรแล้วจ้า
3000 กิโลเมตรแล้วจ้า
4000 กิโลเมตรแล้วจ้า