update จาก endomondo | 4 comments:

ในฐานะที่ใช้ endomondo เก็บสถิติการวิ่งมาฟรีๆเกือบ 2 ปี ในวันนี้เมื่อ endo เริ่ม offer premium member (หรือพูดง่ายๆว่า เก็บตังค์ในกรณีที่ต้องการใช้ feature เทพๆ) เราจึงขอตอบแทนน้ำใจของทีมงาน ด้วยการช่วยขายของ เอ๊ย ช่วยแนะนำสิ่งที่คุณจะได้ เมื่ออัพเกรดเป็น premium member แล้ว

แน่นอนว่า คุณยังสามารถใช้ endomondo เป็น running logbook แบบฟรีได้ เพียงแต่ถูกจำกัดการใช้ feature บางอย่าง ซึ่งผู้ใช้ที่ต้องการเพียงแค่หาที่เก็บสถิติการวิ่งแบบเป็นระบบ สืบค้นง่าย จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ แต่ถ้าคุณยอมจ่ายตังค์ 19.99 USD ต่อปีเพื่ออัพเกรดเป็น premium member สิ่งที่คุณจะได้รับเพิ่มเติมก็หวือหวา น่าสนุกในสายตาข้าพเจ้าซึ่งเป็น serious runner ยิ่งนัก

1) Peer Benchmark

ฟีเจอร์นี้เราชอบที่สุด เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นว่า Personal Best ของเราในการแข่งขันระยะต่างๆ เทียบกับชาวบ้าน อยู่ที่เปอร์เซนไทล์เท่าไหร่ โดยสามารถเลือกได้ว่า "ชาวบ้าน" ที่ว่านี้จะเป็นคนกลุ่มไหน จะเป็นคนทั้งโลก, เฉพาะคนไทย, เฉพาะผู้หญิง หรือเฉพาะคนในกลุ่มอายุเดียวกับเราก็ได้

รูปบนคือ PB 10K ของเรา เมื่อเทียบกับผู้หญิงทั้งโลก(ที่ใช้ endo) ในรุ่นอายุเดียวกัน (ไม่บอกหรอกว่ารุ่นไหน แต่เขียนไว้บนภาพซะตัวเบ้อเร่อ ^ ^) พบว่าเราอยู่ที่ Top 25% (จริงง่ะ ดีใจๆ) และถ้าต้องการพัฒนาตัวเองให้ไปอยู่ที่ Top 20% ต้องวิ่ง 10K ด้วย pace 4:56...เอิ่ม...โหดแท้เหลา แต่ก็จะพยายามนะ 

รูปถัดมาคือ PB Half Marathon เทียบกับชาวบ้านกลุ่มเดิม พบว่าตำแหน่งแย่กว่าอันแรก นั่นคืออยู่ในกลุ่มกลางๆพอดีเป๊ะ แสดงว่าคนใช้ endo ส่วนมากวิ่ง 10K กันไม่เร็ว หรือไม่อีกทีก็คือเราเอง ที่วิ่งฮาล์ฟห่วย 555+ ถ้าอยากถีบตัวออกจากกลุ่มกลางตาราง มาอยู่ที่เปอร์เซนไทล์ 55% (มีคน 55% วิ่งช้ากว่าเรา) เธอจงวิ่ง half ด้วย pace 5:46 เถิดเอย...อืม...อันนี้พอไหวๆ ไม่นานเกินรอแน่นอน

ที่ไม่ได้เปรียบเทียบกันเฉพาะกลุ่มสาวไทยเพราะตอนนี้ผู้หญิงไทยยังใช้ endomondo น้อย (ดูจากรูปก็จะเห็นว่าเืพื่อนข้างเีคียงของข้าพล้วนเป็นชายทั้งสิ้น) กลุ่มประชากรไม่พอที่จะได้กราฟ normal distribution สวยงามเช่นนี้  จึงอยากชักชวนสาวๆมาใช้กันเยอะๆนะคะ

2) Zone Analysis

อีกฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือการประมวลผล HR zone ในการวิ่งแต่ละครั้งในกรณีที่เราใช้ HR monitor ร่วมด้วย ซึ่งถ้าผู้ใช้ไม่ได้ตั้งค่าใดๆ โปรแกรมจะตั้งโซนให้ตามมาตรฐานทั่วไปนั่นคือ

50-59% ของ Maximum HR = zone 1 (Recovery)
60-69%                               = zone 2 (Endurance)
70-79%                               = zone 3 (Moderate)
80-89%                               = zone 4 (Tempo)
>90%                                  = zone 5 (Max)

โดยค่า Maximum HR นี้โปรแกรมจะกำหนดให้เองจากอายุของเราที่ใส่ไว้ตอนสมัคร แปลกใจนิดหน่อยที่ค่าที่ระบุไว้ไม่สอดคล้องกับสูตร "220-อายุ" คิดว่าโปรแกรมอาจจะใช้สูตรอื่นที่ดัดแปลงมาจากสูตรหลัก ซึ่งมีมากมาย แล้วแต่ใครจะเคลมผลวิจัย อย่างไรก็ตาม มีค่าใกล้เคียง Maximum HR ที่ใช้สูตรหลักพอสมควร

สำหรับเรื่องโซนนิ่งนี้ เพจเรื่องวิ่งเรื่องกล้วย ได้สรุปเป็นรูปไว้น่ารักมาก ทั้งอัตราการเผาผลาญแคลอรี่และ talk test สำหรับโซนต่างๆ จึงขอนำมาฝากไว้ให้ได้ศึกษากันค่ะ ส่วนรูปข้างล่างคือผลการวิเคราะห์โซนในการวิ่ง 3 ครั้งของเรา แต่ละครั้งมีจุดประสงค์ต่างกัน จึงวิ่งด้วยความหนัก(ความเร็ว)ต่างกัน ซึ่งเมื่อใช้การวิเคราะ์ห์โซน จะเห็นได้อย่างชัดเจน

รูปซ้ายสุดคือวันที่โค้ชบอกให้วิ่งยาว สบายๆ ให้ HR อยู่ในช่วง 140-150 ซึ่งเรารู้สึกว่าสบายเกินไปหน่อย จะเห็นว่า 77% ของระยะเวลาที่วิ่งทั้งหมด เราอยู่ใน zone 3

รูปกลางคือการแข่งขัน Half Marathon ครั้งแรกของเรา ซึ่งเราตั้งใจจะวิ่งให้ช้ากว่าความเร็วแข่ง 10K พอสมควร เมื่อวิเคราะห์โซนก็พบว่า เราวิ่งในระดับ Tempo ตลอดทาง

รูปขวาสุดคือการแข่งขัน Mini Marathon (นานมาแล้ว เพราะหลังๆคาด HRM ไม่ไหว มันอึดอัด)เมื่อวิเคราะห์โซนก็ต้องอยู่ในโซน 5 อย่างมิพักต้องสงสัย ถึงได้บอกว่า แข่ง 10K นี่ทรมานจริงๆ วิ่งไปน้ำลายฟูมปากไปเหมือนกล้วยเจ๋งในรูปข้างบนนู้นนั่นแหละ 555+

3) เปรียบเทียบผลการวิ่ง

premium member สามารถเลือกผลการวิ่ง 2-3 อันของตัวเองมาเปรียบเทียบกันได้ ฟีเจอร์นี้น่าจะเป็นประโยชน์สูงสุดในกรณีวิ่งในสถานที่เดียวกัน เพราะถ้าภูมิประเทศต่างกัน ก็ย่อมมีปัจจัยต่อความเร็วในแต่ละกิโลเมตรต่างกันไปด้วย ไม่สามารถมาเปรียบเทียบกันได้ สำหรับข้าพเจ้า ไม่เคยวิ่งสนามไหนซ้ำกันเลย (เคยซ้ำอยู่งานเดียว แต่ก็เป็นการแข่งขันคนละระยะ) จึงได้แต่เปรียบเทียบไว้เตือนใจตัวเอง

จากรูปคือการเปรียบเทียบการแข่งมินิมาราธอนครั้งแรกที่มีการเก็บข้อมูลลง endomondo กับครั้งล่าสุด สองครั้งนี้ห่างกัน 1 ปี 7 เดือน แต่จะเห็นว่าความเร็วเฉลี่ยของข้าพเจ้าดีขึ้นเพียง 30 วินาที/กม. หรือประมาณ 5 นาที ต่อ 10K เท่านั้น อะฮือๆๆ

4) เพิ่มรายละเอียดของสภาพอากาศ

เป็นการดีแน่ๆ ที่เราจะได้บันทึกสภาพอากาศขณะวิ่งไว้ด้วย endomondo premium จัดให้ทั้งสภาพอากาศโดยรวม (ฝนปรอย แดดจ้า ฟ้าโปร่ง เมฆมาก เป็นอาทิ), ความเร็วลม, อุณหภูมิ และความชื้นสัมพัทธ์ ดูแล้วเป็นมืออาชีพมั่กๆ (แม้ฝีมือแท้จริงจะอยู่ในกลุ่มสมัครเล่นชั้นกลางแถวก็ตาม)

นอกจากคุณสมบัติที่่มีให้เพิ่มเติมสำหรับ premium member แล้ว endomondo ยังปรับปรุงหน้าประวัติ workout ให้ค้นหาข้อมูลเก่าได้ง่ายขึ้น ซึ่งคุณสมบัตินี้สมาชิกทั่วไป(ฟรี)ก็ใช้ได้ด้วย มีประโยชน์มากๆ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้

เมื่อนับข้อดีได้ 5 ข้อแล้ว ตามโฆษณาน้ำยาปรับผ้านุ่ม ใครที่ใช้ running logbook ค่ายอื่่นอยู่ก็ลองเปลี่ยนมาใช้ endomondo ดูนะคะ แล้วจะติดใจ ข้าพเจ้าขอลาไปรับตังค์ค่ารีวิวก่อนนะคะ (ใครจะให้แก๊ เค้าอยู่เดนมาร์กโน่น 555+)

อ่านรีวิว endomondo อันแรกของเราได้ที่นี่