สำหรับนักวิ่งมือใหม่ที่มีโอกาสได้ลงแข่งขันในรายการที่มีการใช้ chip เพื่อบันทึกเวลา หลังจากที่ผลการแข่งขันออกมาแล้วคงต้องมีคำถามเกิดขึ้นในใจแน่นอนว่า สถิติที่ได้จากช่อง Finish Time กับที่ได้จากช่อง Net Time ต่างกันอย่างไร และตัวไหนที่ถือเป็นสถิติอย่างเป็นทางการ ที่ผู้จัดเอาไว้หาคนได้รางวัล
เราก็ไม่รู้เหมือนกัน (อ้าว!!!) ก็ไม่เคยสนใจนิ แล้วก็ไม่เคยวิ่งรายการที่ใช้ชิปด้วย อย่างในกรุงเทพมาราธอนถึงจะใช้ชิป ก็ใช้สำหรับระยะ full และ half marathon เท่านั้น ส่วนระยะอื่นๆ ก็เชิญหร่อนดูนาฬิกาที่เส้นชัยเอาเองนะ (น่าปวดตับกว่านั้นก็คือ ที่เส้นชัยของรุ่นมินิฯไม่มีนาฬิกา!!! คุณพระช่วย นี่หรือมาราธอนแห่งชาติไทย ยืนยันด้วยภาพเข้าเส้นชัยของเรา
ที่นี่)
แต่หลังจากที่รู้ว่ารายการขอนแก่นมาราธอนจะมีการใช้ชิปกับระยะมินิมาราธอนด้วย (ไฮโซ สมกับค่าสมัคร 400 บาทสำหรับ early bird register และ 1,000 บาทสำหรับ lazy bird) เราก็เลยไปค้นคำตอบมาได้ดังนี้
Finish Time หรือ
Gun Time* คือเวลาตั้งแต่เสียงปืน(หรือเสียงหวูด)ให้สัญญานสตาร์ทดังขึ้น จนถึงเวลาที่เราเข้าเส้นชัย ดังนั้นเวลานี้สามารถดูได้เองทันทีจากนาฬิกาที่เส้นชัย
ส่วน
Net Time คือเวลาที่ต้องอ่านจากชิปเท่านั้น โดยชิปจะเริ่มจับเวลาเมื่อเราวิ่งผ่านเส้นสตาร์ท และสิ้นสุดการจับเวลาเมื่อเราวิ่งผ่านเส้นชัย (
พูดให้ถูกจริงๆก็คือ วิ่งผ่านพรมนำสัญญาณ ที่ใช้บันทึกเวลาร่วมกับชิป) ดังนั้นนี่คือเวลาจริงๆที่เราทำได้ ถ้าจะดูสถิติของตัวเองก็ดูจากค่านี้เทอญ
เวลาทั้งสองจะแตกต่างกันในกรณีที่เราไม่ได้ยืนรอสตาร์ทที่แถวหน้า ในการแข่งขันที่มีคนเข้าแข่งเยอะๆอาจต่างกันได้เป็นนาทีเลยทีเดียว(แบบที่เคยเจอในกรุงเทพมาราธอน) ทีนี้ถามว่าผู้จัดจะใช้เวลาตัวไหนมาคิดอันดับ จากการหาข้อมูลเราพบว่าไม่มีการกำหนดตายตัว ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้จัดเป็นสำคัญ เช่นถ้าเป็น
ขอนแก่นมาราธอน ดูจาก Rules & Regulations จะพบว่าในการแข่งขันทั้ง 3 ระยะ ผู้จัดจะใช้ Finish Time เป็นตัวจัดอันดับผู้ชนะประเภท Over all ส่วนการจัดอันดับประเภทกลุ่มอายุ จะใช้ Net Time ในขณะที่
ภูเก็ตมาราธอนซึ่งใช้ชิปกับทุกระยะแบบเดียวกับขอนแก่น ใช้ Finish Time เป็นตัวตัดสินทุกประเภท ส่วนถ้าเป็น
พัทยามาราธอนซึ่งใช้ชิปกับระยะ Full และ Half เท่านั้น จะใช้ Net Time เป็นตัวตัดสิน
อย่างไรก็ตามจากการสังเกตของเราสำหรับแนวหน้าแล้ว Finish Time ก็สะท้อนถึง Net Time ได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือภายใน 5 อันดับของ Over all แม้จะเปลี่ยนไปเรียงตาม Net Time อันดับที่ได้ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ที่เป็นเช่นนี้เพราะตามมารยาทแล้วแนวหน้าจะเป็นพวกที่ยืนอยู่แถวหน้าของเส้นสตาร์ทอยู่แล้วนั่นเอง
แข่งขอนแก่นมาราธอนครั้งนี้ สำหรับเรา Finish Time จะเป็นเท่าไหร่ก็ไม่สนหรอก เพราะยังไงก็ไม่มีหวังกับ Over all อยู่แล้ว ส่วนรางวัลที่ 1-5 สำหรับแต่ละช่วงอายุ ดู
สถิติของงานปีที่แล้วก็พบว่าศักยภาพของเราตอนนี้มีหวังลุ้นอันดับ 5 เหมือนกันนะ แต่เป็นของรุ่นอายุ 50-59 ปีน่ะ 555+
*อ้างอิงจาก
เว็บบอร์ด Runner's Worldโพสต์ที่เกี่ยวข้องผลการแข่งขันและเรื่องเล่าจากงานขอนแก่นมาราธอนของเรา