race 2: ถ้วยแรกในชีวิต | 9 comments:

เดิน-วิ่งเฉลิมพระเกียรติ พลังวัฒนธรรมไทย เทิดไท้องค์ราชัน

ใครจะไปคิดว่าลงวิ่งครั้งที่ 2 ก็ได้ถ้วยมาเชยชมซะแล้วแบบงงๆ ที่ได้มานี้ไม่ใช่ฝีมือ แต่เป็นเพราะจังหวะชีวิตล้วนๆ คนมาวิ่งปริมาณจุ๋มจิ๋มมากด้วยหลายสาเหตุ ที่สำคัญน่าจะเป็นเพราะขาดการประชาสัมพันธ์ เราเองก็เพิ่งรู้ว่ามี เพราะน้องคนนึงในเว็บบอร์ดที่เล่นอยู่ PM มาบอก อีกสาเหตุก็คือในวันเดียวกันนี้มีงานวิ่งอีกงานที่สวนลุมด้วย เป็นงานใหญ่ทีเดียวเพราะเห็นออกข่าวภาคค่ำ คนเพียบ

ก่อนเล่าต่อ ขอเม้ง organizer ของงานนี้นิดนึง ก่อนแข่งซัก 3 วัน เราเข้าไปดูเว็บไซท์ของเขา เห็นเขียนในโบรชัวร์ว่าจะเปิดรับสมัครวันที่ 4 ธันวาที่งานตรงลานพระรูป เริ่มสมัครได้ 10.00 น เราไปถึงตอน 11.30 เดินวนอยู่รอบนึงก็ไม่เจอบูทรับสมัคร เลยโทรไปถามที่บริษัท ได้ความว่าให้สมัครที่กองอำนวยการ แต่เจ้าหน้าที่จะมาถึงตอน 13.00 อ้าว!!! ไหงงั้นล่ะ โอเค...งั้นไปดูฮิปโปที่เขาดินไปพลางๆก่อนก็ได้ฟระ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่านี่ถ้าเรามีธุระปะปัง รอไม่ได้จะทำยังง้าย

เที่ยวเขาดินนี่ก็เพลินดีเหมือนกัน เดี๋ยวนี้เค้ามีโชว์ให้ดูหลากหลายเลย ทั้งโชว์กายกรรมจากเคนย่า (แอบคิดในใจว่าพวกนักวิ่งมาหาลำไพ่พิเศษหรือเปล่า 555+) โชว์ช้างแสนรู้ แต่ที่ทึ่งสุดคือโชว์แมวน้ำ ฉลาดโพดๆ ฉลาดกว่าหมาอีก น่ารักอีกต่างหาก เดินรอบเขาดินจนขาลากถึง 15.30 ก็กลับไปที่งานอีกครั้ง ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่เพิ่งขนเสื้อขนเบอร์ลงจากรถสดๆร้อนๆ...เง้อ...นี่ถ้าเค้ามาบ่ายโมงตามที่บอก เค้าคงต้องผิดหวังอีกใช่ม้ายยย ทำไมทำอย่างงี้ //อีโม่ค้อนทุบหัว

โอเคเม้งพอแล้ว กลับเข้าเรื่อง เราพบว่าค่าสมัครเพิ่มจากในโบรชัวร์จาก 300 เป็น 400 และเสื้อโปโลไซส์ S ที่ได้มามันก็ใหญ่เกินไป อดใส่วิ่งอีกตามเคย T_T

วันแข่ง ไปถึงงานตอน 5.15 ต๊กกะใจว่าทำไมมันช่างต่างกับงานกรุงเทพมาราธอนเช่นนี้ งานนั้นต้องเบียดคนเข้าไปเพื่อรอปล่อยตัว แต่งานนี้พอไปถึง เห็นนักวิ่งหลักสิบกำลังยืดเส้นกันเป็นเงาตะคุ่มๆ อยู่ในลานพระรูปเป็นหย่อมๆ แง้ T_T เค้ากัววววว โชคดีที่ผู้จัดงานของกระทรวงวัฒนธรรมยังไม่ใจร้ายเกินไปนัก อุตส่าห์ตั้งเวที เกณฑ์คนมาดู (มั่นใจมากในจุดนี้เพราะใครจะมาเที่ยวงานตั้งแต่ตีห้า) มีการแสดงบนเวทีเป็นเพื่อนนักวิ่ง บรรยากาศโดยรวมเลยยังไม่แย่เกินไปนัก พอตั้งสติได้ก็เลย jogging และยืดเส้นเพื่อรอเวลา พอบนเวทีเรียกเข้าประจำที่เรามองไปที่คู่แข่งรอบๆตัว นับผู้หญิงได้คร่าวๆ 10 คนถ้วน !!!

นึกดีใจขึ้นมาทันทีที่ติดบัตรประชาชนมาด้วย ตอนหยิบมาไม่ได้คิดเรื่องถ้วยอะไรเลย แต่คิดว่าเผื่อเป็นลมเป็นแล้ง หรือ heart attack ขึ้นมาจะได้ตามพ่อแม่ถูก 555+

ครั้งนี้ไม่ได้ถ่ายรูปตอนวิ่ง เพราะอยากรู้ว่าถ้าวิ่งอย่างเดียวจะทำเวลาได้เท่าไหร่ คราวที่กรุงเทพมาราธอนเรา chill มาก ตรงไหนสวยๆก็หยุดถ่ายรูป และชะลอเพื่อกินน้ำทุกๆ 2 กิโลเมตร เข้าเส้นชัยแบบพูดได้เต็มปากว่าไม่เหนื่อยเลย ทำเวลาไปประมาณ 67 นาที ครั้งนี้ก็ยังกินน้ำทุกจุดเหมือนเดิมเพราะเจียมตัวว่ายังเป็นมือใหม่ แต่วิ่งแล้วรู้สึกเหนื่อยเป็นบางช่วง คงเพราะคนวิ่งกันน้อย ใจมันไม่มีที่ให้เกาะ ไม่มีคนแปลกๆให้ดูเพลินๆแบบคราวที่แล้ว เลยต้องกลับมาจดจ่อที่อาการของตัวเองแทน ทำให้รู้ว่าเรากำลังหายใจแรง รู้สึกถึงหัวใจที่สูบฉีดเลือดอย่างแข็งขันอยู่ในอก บางช่วงจึงต้องผ่อนฝีเท้าเพื่อให้ความเหนื่อยลดลงเหลือเท่าตอนซ้อม ส่วนอาการบาดเจ็บนั้นน่าดีใจว่าไม่มีเลย

วิ่งครั้งนี้ปิดสะพานพระราม 8 ให้วิ่งเช่นเคย ชอบจัง แต่พอลงถึงถนนข้างล่าง ต้องรอไฟแดงกันเอาเอง ยังดีที่เช้าอยู่รถยังไม่มาก เรามาเร่งความเร็วอีกครั้ง 800 เมตรก่อนเข้าเส้นชัยเพราะไปทันกลุ่มนักวิ่งจาก SCIB พอดีก็เลยพยายามเกาะเค้าไป และเข้าเส้นชัยด้วยเวลาประมาณ 66 นาที...โห...เหนื่อยจะแย่ เร็วกว่าเดิมแค่นาทีเดียว T_T

ที่สุดเส้นชัยจะมีโต๊ะแจกเหรียญ แต่คราวนี้มีป้ายอะไรซักอย่างมาให้คล้องคอด้วย อ่านดูปรากฏว่าเป็นป้ายเขียนว่า "อันดับที่ 5 Over all หญิง"...เฮ้ย...นี่เราจะได้รางวัลด้วยใช่ม้ายยยย ดีใจวุ้ย ^ ^

เอาป้ายกะเหรียญคล้องคอเสร็จกะว่าจะเดินไปหาอะไรกินหน่อย ก็มีคุณอาคนนึงเข้ามาบอกว่าต้องไปลงทะเบียนด้วยนะ เราก็ขอบคุณแกไปแล้วบอกว่าไม่ค่อยรู้ธรรมเนียมเพราะเป็นมือใหม่ แกบอกกลับมาว่า "เห็นอาการก็รู้แล้วว่าเพิ่งหัดวิ่ง" T_T อะไรกันค้าลุง (เรียกลุงซะเลย นี่แหนะ) นี่หนูจัดระเบียบร่างกายก่อนเข้าเส้นชัยแล้วนะคะ ไม่ได้หมดสภาพอะไรขนาดนั้นซักหน่อย ทั้งหมดนี้คิดในใจเนื่องจากลุงแกเดินจากไปนานแล้ว 555+

งานนี้พอเพียงสุดๆ อาหารสำหรับนักวิ่งมีอย่างเดียวคือโจ๊กหมู กินเสร็จ เดินดูรองเท้า สมัครงานวิ่งของเซ็นทรัล รออีกแป๊บนึงเค้าก็มาเรียกไปข้างเวทีเพื่อรอรับรางวัล เอารูปเวทีเต็มๆมาให้ดูว่ามันเป็นงานใหญ่ไม่ใช่งานอบต.

คนมามอบรางวัล Super half Marathon คือรมต. กระทรวงวัฒนธรรม (คุณอาเสื้อเทาที่เห็นในรูป) ส่วน Over all คนมอบรางวัลคือประธานที่ปรึกษา รมต. ดร.วิฑูร กรุณา (เอ...แกเป็นพระเอกเก่าไม่ใช่เหรอนั่น เป็นด็อกเตอร์ตั้งแต่เมื่อไหร่หว่า)

Over all อันดับ 1-4 ดูเป็นมืออาชีพมั่กๆ คนได้ที่ 1 เป็นสาวเคนย่าเจ้าประจำ ส่วนคนอื่นๆก็สังกัดชมรมวิ่งทั้งนั้น แต่เจ๊ที่ได้ที่ 5 เธอเป็นคร้ายยยย มาจากหนายยยย 555+

ด้วยความที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว กะว่ารับถ้วยเสร็จก็จะกลับแระ เดชะบุญ ได้ยินคนพูดแว่วๆว่าเดี๋ยวไปรับตังค์ เลยถามคุณพี่เสื้อขาวข้างๆ (เธอวิ่งรุ่น 50+) ว่าได้ถ้วยอย่างเดียวเหรอคะ (ไม่พูดตรงๆค่ะ ต้องสงวนท่าทีนิดนึง) พี่เค้าเลยบอกให้ตามเค้าไปรับตังค์ที่เดียวกับตอนลงทะเบียน

นี่ถ้าไม่พกบัตรประชาชนมาด้วย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไง ได้เงินรางวัล 500 บาทถ้วน ^ ^

แค่นี้ก็ดีถมถืดแล้ว เสียค่าสมัคร 400 ค่ารถอีก 14 บาท ได้กำไรตั้ง 86 บาทแน่ะ 555+

ขอได้รับความขอบคุณจากนักวิ่งกะโหลกกะลาคนนึงด้วยค่ะ ปิดท้ายด้วยรูปถ้วยแรกในชีวิตแบบซูม ซูม

Net Time: 66 นาที, ระยะทาง: 10.55 กิโลเมตร

ความเร็วเฉลี่ย: 6:16 นาที/กิโลเมตร