***mission*** นับจากวันที่ 18 พ.ค. เป็นเวลาอีก 30 วันถ้วน (หวังว่าอย่างนั้น) ข้าพเจ้าจะต้องดำรงชีวิตอยู่ด้วยแขนขวาเพียงข้างเดียว และจะต้องพยายามรักษาระดับความฟิต (วัดจาก resting heart rate) ให้คงที่อยู่ที่ 59 bpm ให้ได้ โดยไม่ทำให้แขนซ้ายกระทบกระเทือน.... ข้าพเจ้าจะทำได้หรือไม่.... โปรดติดตาม update ด้วยใจระทึกพลัน!!!
flashback กลับไปเมื่อวันจันทร์ที่ 16 พ.ค. เวลาประมาณเที่ยง ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำพอง จ.ขอนแก่น หลังจากพาพ่อแม่เดินไต่เขาระยะสั้นๆ เพื่อชมหินพิศดารต่างๆที่เป็นกิมมิกของอุทยานและถ่ายรูปกับป้ายอุทยานตามธรรมเนียมแล้ว เราเดินลงจากเนินหญ้าที่ตั้งป้ายด้วยอิริยาบทธรรมดา ไม่ได้รีบร้อนแต่อย่างใด อย่างไม่ทันตั้งตัว เพิ่งรู้สึกว่าพื้นหญ้าจุดที่เหยียบมันไร้แรงเสียดทานต่อพื้นรองเท้าอย่างสิ้นเชิง ส่งผลให้มวลขนาด 47 Kg หงายหลังลงมายังพื้นด้วยความเร่ง g = 9.8 m/s^2 ด้วยสัญชาติญาน เราจึงเอามือซ้ายเท้าพื้น ดังนั้น ณ วินาทีปะทะจึงเกิดแรง F = 460.6 N กระทำต่อมือซ้ายของเรา ส่งผลให้กระดูกแขนอันค่อนข้างบางอยู่แล้วหักกร๊อบในทันทีทันใด เรายังไม่รู้ตัวจนกระทั่งชักแขนมาดู คุณพระ!! แขนและหลังมือที่ควรมีระนาบเดียวกัน ตอนนี้กลายเป็นแขนเล่นระดับไปเสียแล้ว ดูดีมีรสนิยมเหลือเกิน กระนั้นเราก็ยังคิดเข้าข้างตัวเองว่ามันแค่เคลื่อน ไม่ได้หัก เพราะไม่ได้ปวดขนาดต้องร้องโอดโอยเหมือนที่เห็นนักบอลเป็น เวลาแขนขาหักคาสนาม เดี๋ยวหมอดึงกรึ๊บเดียวก็โอเคแล้วม้าง