เดิน-วิ่ง สวนกุหลาบวิทยาลัย มินิมาราธอน 2010
งานนี้เป็นงานเฉพาะกิจ จัดขึ้นเพื่อหารายได้สมทบทุนงานฉลองตึกยาวซึ่งเป็น signature ของโรงเรียนครบรอบ 100 ปี ด้วยความที่เป็นงานโรงเรียน นักเรียน ศิษย์เก่าและครูช่วยกันจัด บรรยากาศก็เลยออกมาอบอุ่นแบบมือสมัครเล่น ได้ฟีลลิ่งแปลกๆไปอีกแบบ
ขอแทรกเกร็ดความรู้สั้นๆ เพื่อให้คนที่หลงเข้ามาอ่านมีอะไรติดไม้ติดมือกลับไปบ้าง อันว่า"เกาะรัตนโกสินทร์"นี้ แม้ว่านักประวัติศาสตร์บางท่าน (อินี่ฉานก็จำไม่ได้แล้วว่าใคร) จะบอกว่าไม่เคยมีแนวคิดดังกล่าวอยู่จริง เป็นแค่วาทกรรมที่ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อขายนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่เราว่ารู้ไว้ก็ไม่เสียหายอะไร เผื่อเจอใครพูดถึงจะได้คุยกับเค้ารู้เรื่อง
เกาะรัตนโกสินทร์ไม่ใช่เกาะแบบสมุย เสม็ด เพราะไม่ได้ถูกล้อมรอบโดยน้ำทะเล แต่อุปมาว่าเป็นเกาะเพราะด้านหนึ่งของอาณาเขตเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา อีกด้านหนึ่งเป็นคลองรอบกรุง (บางลำพู-โอ่งอ่าง) ประมาณว่า ถ้าจะเข้ามายังอาณาเขตนี้ อย่างไรเสียก็ต้องข้ามน้ำมา ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันข้าศึกที่จะเข้ามายังตัวเมือง ดูได้จากสารพัดป้อมที่ตั้งอยู่รอบ"เกาะ" ตามแนวคลองและแม่น้ำดังกล่าว ดังนั้นคำว่า "เกาะรัตนโกสินทร์" จึงให้ความรู้สึกเก่าขลัง เป็นบริเวณซึ่งการันตีได้ว่าเป็น "เมืองเก่า" ของยุครัตนโกสินทร์ จริงๆยังมีการแบ่งเป็นเกาะรัตนโกสินทร์ชั้นนอกและชั้นในอีก แต่ขอเล่าคร่าวๆแค่นี้พอ เดี๋ยวผิดคอนเซ็ปท์ของบล็อก จุด A ในแผนที่คือโรงเรียนสวนกุหลาบ
อย่างที่บอกว่าเป็นงานโรงเรียน งานนี้เลยไม่ได้ทำแผนที่ แต่ใช้"บรรยายโวหาร" เพื่อบอกเส้นทางวิ่งแทน ประมาณว่า... ออกจากโรงเรียนแล้วเลี้ยวขวาข้ามสะพานพุทธ กลับตัวแล้วเลี้ยวซ้ายไปปากคลองตลาด เข้าถนนชื่อนั้น ออกถนนชื่อนี้ แล้วให้นักวิ่งจินตนาการเอาเอง ส่วนนักวิ่งบ้านนอกที่รู้จักกรุงเทพฯแค่หมอชิต กับอนุเสาวรีย์ชัยก็ช่วยไม่ได้นะท่าน วิ่งตามคนอื่นเอาแล้วกัน 555+
ฉากการวิ่งเปิดขึ้นอย่างสวยงามเมื่อวิ่งข้ามสะพานพุทธที่มีการปิดถนนให้อย่างดี เมื่อต้องกลับตัวที่สุดสะพานซึ่งเป็นทางแยก ตำรวจก็เปิดไฟแดงให้นักวิ่งกลับตัวจนหมด แต่หลังจากนั้น มันคืองานวิ่งที่โลดโผนที่สุดตั้งแต่เคยวิ่งมา เลี้ยวเข้าปากคลองตลาดเราต้องวิ่งหลบตุ๊กๆ และรถเข็นผักที่วิ่งฉวัดเฉวียนพัวพันอยู่ในแถวของนักวิ่ง พอถึงถ.มหาราช ประชากรเริ่มเบาบางก็ต้องมาระวังรถเมล์แทน กลุ่มนักวิ่งจึงเลือกที่จะวิ่งชิดขวาเพื่อให้เห็นรถที่วิ่งสวนมา บางคนลงทุนขึ้นไปวิ่งบนฟุตปาธที่เป็นอิฐตัวหนอนเพื่อความปลอดภัยในชีวิต แต่เรายังคงวิ่งบนถนน เพราะนี่เป็นการแข่งครั้งแรกที่ลองใช้ท่าวิ่งแบบ forefoot ไม่อยากให้สภาพถนนมาเป็นปัจจัยเพิ่มเติม บางช่วงที่จำเป็นจริงๆเช่นช่วงใกล้สี่แยกจึงขึ้นไปวิ่งบนฟุตปาธ จริงๆแล้วทางโรงเรียนก็จัดนักเรียนมาช่วยโบกรถให้บ้างในบางจุด แต่ขนาดตำรวจโบก รถยังไม่ค่อยอยากสน แล้วนี่เป็นเด็กมัธยมใส่ชุดร.ด. ไหนเลยจะมีใครสนใจ
เราและนักวิ่งคนอื่นๆวิ่งด้วยลักษณาการเช่นนี้วนรอบสนามหลวง ผ่านสนามไชย เจริญกรุง จนถึงแยกอุณากรรณ ต่อเมื่อเลี้ยวเข้าหลังดิโอลด์จึงได้วิ่งกันสบายใจขึ้น เราเองด้วยความที่ไม่คุ้นเคยกับแถวนั้น พอเลี้ยวขวาเข้าถ.พาหุรัดแล้วเห็นนักวิ่งที่จำได้ว่าเป็นแนวหน้าวิ่งสวนกลับมา เลยนึกว่าเลี้ยวผิดทางเสียแล้ว ยังไม่มีโอกาสได้ถามให้รู้ความก็ต้องเลี้ยวซ้ายอีกที จึงได้รู้ว่าถึงเส้นชัยซะงั้น เร็วเกินคาดเพราะงานนี้ระยะทางวิ่งเพียง 8.4 กิโลเมตรเท่านั้น
ก่อนถึงเส้นชัยเราโดนคุณพี่ท่านหนึ่งที่เราแซงมาตั้งแต่สนามหลวง ใช้ก๊อกสุดท้ายแอบแซงเข้าไปก่อนได้ ด้วยความที่ไม่รู้ว่ามีคนตั้งใจจะเอาคืน ข้าพเจ้าเลยวิ่งชิวๆ กว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว นึกเสียดายวูบว่าอาจไม่ติด 1-5 เพราะมีความเป็นไปได้ว่าคุณพี่ท่านนั้นจะอยู่ในกลุ่มอายุเดียวกับเรา และเท่าที่ดูรายชื่อตอนสมัครก็เห็นว่ามีแนวหน้าในกลุ่มอายุเดียวกันมาแข่งหลายคน ดังนั้นพอเข้าเส้นชัยแล้วเด็กยื่นป้ายเลข 5 มาให้เลยดีใจแบบสุดๆ กระโดดโลดเต้นจนช่างภาพของงานต้องมาขอถ่ายรูปเพราะเราดีใจอย่างกับคนได้ที่ 1 ^ ^"
งานนี้ได้รับถ้วยสมใจ และได้ความมั่นใจในท่าวิ่งแบบใหม่ด้วย เพราะสถิติดีขึ้นชัดเจนทันตาเห็น วันรุ่งขึ้นที่จะแข่งที่เซ็นทรัลเวิร์ลก็จะใช้ท่านี้อีก จะได้รู้เสียทีว่าเมื่อวิ่งเต็มระยะ 10 กิโลเมตรผลจะออกมาเป็นเช่นไร
ข้างล่างคือ "ตึกยาว" ที่มาของการจัดงานวิ่งครั้งนี้ ยาวจริงอะไรจริง
Net Time: 50 นาที, ระยะทาง: 8.4 กิโลเมตร
ความเร็วเฉลี่ย: 5:57 นาที/กิโลเมตร (เย้!!!)
ยินดีด้วยครับพี่ งานนี้ไปวิ่งเอาถ้วยจริงๆ ด้วย ฮาฮา
ReplyDeleteพรุ่งนี้อย่าหลับเพลินนะพี่ เดี๋ยวอดมาเซ็นทรัลเวิลด์
ขอบคุณค้าบ
ReplyDeleteถ้าไม่ได้ถ้วยคงเสียดายแย่ อดกระทบไหล่คนดัง 555+
อ่านแล้ว ชอบ เขียนฮาดี ^^
ReplyDeleteขอบคุณที่มาขุดนะคะ ทำให้เราได้กลับมาอ่านเรื่องเก่าๆอีกครั้ง สมัยเป็นรุกกี้นี่ตลกดีจริงๆ
Delete