Friday, June 3, 2016

วิ่งทันโลก 33: 5 สิ่งที่ฉันค้นพบเมื่อนั่งสมาธิติดต่อกัน 33 วัน | No comments:

คอลัมน์วิ่งทันโลก
Thai Jogging Magazine ฉบับประจำเดือนพฤษภาคม 2559
โดย oorrunningblog



วิ่งทันโลกฉบับนี้ขออินเทรนด์ งานวิ่งสมาธิ ด้วยการเล่าเรื่องสมาธิๆ กับเค้าบ้างนะคะ ^ ^ ที่มาที่ไปก็คือ ตั้งแต่ต้นปี ผู้เขียนทดลองสร้างนิสัยใหม่ขึ้นมาทีละอย่าง สำเร็จบ้างล้มเหลวบ้างตามประสาปุถุชน อย่างไรก็ตามจนถึงวันนี้ ผู้เขียนสร้างนิสัยใหม่สำเร็จไป 3 อย่างแล้วค่ะ หนึ่งในนั้นคือ การนั่งสมาธิทุกวัน นั่นเอง

นักวิ่งท่านใดที่เข้าวัดเข้าวา นั่งสมาธิเป็นปกติอยู่แล้วก็ข้ามไปได้เลยนะคะ เพราะสิ่งที่ผู้เขียนจะเล่าต่อไปนี้คงเปรียบได้กับสอนจระเข้ว่ายน้ำเป็นแน่ แต่ท่านใดที่เป็นคนแบบเดียวกับผู้เขียน นั่นคือ... ก็รู้แหละว่านั่งสมาธิมันดี แต่นั่งทีไรก็หลับทุกที หรือรู้สึกทรมานเกินกว่าจะอดทนทำเป็นประจำได้ อยากให้ลองอ่านดูค่ะ เพราะถ้าขนาดคนอย่างผู้เขียนยังทำได้ คุณก็ทำได้แน่นอน

ต่อไปนี้คือสิ่งที่ผู้เขียนค้นพบหลังจากนั่งสมาธิติดต่อกัน 33 วัน และคิดว่า...โถ่...ถ้ารู้อย่างงี้ตั้งแต่แรกก็ทำได้ไปนานแล้ว!!



1) ต้องจดบันทึก


เพื่อแปลงความพยายาม (ซึ่งในที่นี้คือการนั่งสมาธิ) ให้กลายเป็นรูปธรรม เช่นครื่องหมายขีดฆ่าบนแต่ละวันในปฏิทิน นอกจากจะบอกให้รู้ว่าเรานั่งสมาธิไปวันไหนบ้าง ได้ตามเป้าหรือไม่ สิ่งนี้ยังเป็นเหมือนรางวัลเล็กๆ ทุกครั้งที่หยิบปฏิทินมาดู เพราะทุกขีดที่ปรากฏ มันคือตัวแทนความพยายามของเรา ทำให้รู้สึกเชื่อมั่นว่าเราทำได้ และมีกำลังใจที่จะทำต่อไป

สำหรับเราไม่ต้องขีดเองค่ะ เพราะใช้แอพฯที่ชื่อ Calm ซึ่งออกแบบมาสำหรับการนั่งสมาธิโดยเฉพาะ ในแอพฯจะมีโปรแกรมให้เลือกหลากหลาย เช่น สมาธิเพื่อความสงบ สมาธิเพื่อคลายกังวล สมาธิเพื่อให้หลับลึก ฯลฯ โดยมีเสียงพูดแนะนำว่าให้ทำอะไรบ้าง หรือจะเลือกทำสมาธิเองแบบฟรีสไตล์ก็ได้ เมื่อทำจนครบเวลา แอพฯจะบันทึกให้โดยอัตโนมัติว่าวันนี้ได้นั่งสมาธิไปแล้ว สะดวกมากค่ะ

เริ่มใช้แอพฯครั้งแรกวันที่ 8 มีนาคม และใช้ต่อเนื่องมา 33 วัน
ก่อนจะเสียสถิติในวันที่ 10 เมษายน...ก็มันง่วงมากจริงๆ ^ ^"
ตอนนี้ทำสถิติใหม่นั่งได้ 51 วันติดต่อกันแล้วค่ะ ^ ^

2) นั่งตอนเช้าเวิร์คสุด


หลังจากอาบน้ำให้สดชื่นตื่นเต็มตาแล้ว โดยเฉพาะถ้าเมื่อคืนได้นอนหลับอย่างเพียงพอ การนั่งสมาธิจะมีประสิทธิภาพมาก นั่นคือ ไม่ง่วง ความคิดไม่แวบไปมา หรือถึงแวบไปมาก็ตามดูได้เป็นส่วนใหญ่ ที่สำคัญ นั่งเสร็จแล้วรู้สึกมีพลังใจ อยากทำตามเป้าหมายต่างๆ ที่วางไว้ของวันนี้ ส่วนเวลาที่ไม่เหมาะเลยคือ ตอนง่วง เช่นหลังอาหารเที่ยง หรือก่อนเข้านอน ...ไม่ว่าเราจะคิดว่าตัวเองมีตบะแก่กล้าแค่ไหน ก็หลับไม่เหลือค่ะ ^ ^

ดังนั้นถ้าอยากนั่งสมาธิให้มีประสิทธิภาพที่สุด เราจำเป็นต้องมีวินัยไม่ต่างกับการวิ่งเลย นั่นคือ ต้องเข้านอนแต่หัวค่ำเพื่อจะได้ตื่นเช้า ในระดับที่ทำให้มีเวลาเพียงพอจะนั่งสมาธิได้อย่างไม่ร้อนใจว่าจะไปทำงานไม่ทัน


3) “ทำทุกวัน” ง่ายกว่า “ทำบ่อยๆ”


ถ้าให้เทียบระหว่าง ตั้งเป้าว่าสัปดาห์หนึ่งต้องทำ 3 วัน กับ ตั้งเป้าว่าต้องทำทุกวัน ฟังดูแล้วอย่างแรกน่าจะมีโอกาสสำเร็จง่ายกว่าใช่มั้ยคะ แต่เอาเข้าจริงกลับไม่เป็นอย่างนั้น...

ตอนแรกผู้เขียนไม่ได้คิดจะนั่งสมาธิทุกวันหรอกค่ะ แต่บังเอิญเลือกโปรแกรมนั่งสมาธิสำหรับผู้เริ่มต้นในแอพฯ Calm ซึ่งโปรแกรมนี้ต้องทำติดต่อกัน 7 วัน ทำให้ต้องหาเวลาวันละ 15 นาทีมานั่งสมาธิ ในวันที่ตอนเช้ามีเวลาไม่พอ ผู้เขียนเลยต้องนั่งสมาธิขณะเดินทางไปทำงานแทน บนรถตู้บ้าง รถเมล์บ้าง นั่งบนเตียงก่อนเข้านอนบ้าง บางวันงีบไปตอนหัวค่ำก็ยังต้องตื่นมานั่งสมาธิก่อนเที่ยงคืน!! (ไม่งั้น Calm ไม่นับให้) ...ทำยังไงก็ได้ให้ทลายข้อจำกัดเพื่อจะได้นั่งครบ 7 วันติดต่อกัน สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้เขียนพบว่า...เห้ย!!...มันง่ายอะ!! ไม่ต้องคิดอะไรมาก แค่ทำทุกวันก็จบ

สามารถกลับไปดูได้ว่านั่งสมาธิโปรแกรมไหนมาบ้าง
ที่เห็นคือโปรแกรม 7 วันสำหรับผู้เริ่มต้น ที่เราพูดถึงนั่นเอง

แต่ถ้าตั้งเป้าหมายว่าสัปดาห์หนึ่งต้องทำ 3 วัน แบบที่เคยทำกับการตั้งเป้าหมายเรื่องเล่นโยคะ พอวันไหนสภาวะไม่เหมาะสมก็ผัดไปก่อน เพราะเหลือโควตาอีกหลายวันกว่าจะครบสัปดาห์ พอมีข้ออ้างสักครั้งหนึ่งแล้วครั้งอื่นๆ ก็จะตามมา สุดท้ายก็ต้องพับโปรเจคนี้ไปในที่สุด ^ ^”

ดังนั้นขอแนะนำว่า ถ้าอยากทำอะไรให้เป็นนิสัย ในช่วงแรกเช่นหนึ่งเดือนแรก แนะนำให้ตั้งเป้าหมายไปเลยว่าจะทำทุกวัน ฝนจะตกแดดจะออกก็จะไม่มีข้ออ้าง เชื่อเถอะว่าง่ายและสนุก ลองดูค่ะ


4) นั่งครั้งละ 5 นาทีก็ได้


ก็เหมือนสร้างนิสัยการออกกำลังกายนั่นแหละค่ะ วิ่งวันละ 5 นาทีก็ยังดีกว่าไม่วิ่งเลย อย่าไปเชื่อที่บอกว่าต้องวิ่งครบ 20 นาทีก่อนร่างกายถึงดึงไขมันมาใช้ ไม่จริงค่ะ ร่างกายใช้ไขมันตั้งแต่ออกวิ่งก้าวแรกแล้ว

การนั่งสมาธิก็เช่นกัน นั่ง 5 นาที แต่ถ้าเป็น 5 นาทีที่มีคุณภาพก็ทำให้จิตใจสงบได้ ขนาดแอพฯ Calm ยังมีโปรแกรมนั่งสมาธิต่ำสุดที่ 2 นาทีเท่านั้น และถ้าถึงที่สุดแล้วมันไม่ยอมสงบ อย่างน้อยเราก็ได้ความมุ่งมั่นเกาะติดกับเป้าหมาย ไม่ยอมเลิกล้มแม้จะจนเวลา

ตัวอย่างโปรแกรมการนั่งสมาธิแบบมีเสียงพูดแนะนำ
อันที่มีเครื่องหมายล็อกตามหลังแปลว่าต้องสมัครสมาชิกก่อน ถึงจะใช้งานได้

5) นอนสมาธิก็ได้


เนื่องจาก Calm เป็นแอพฯ ของฝรั่ง เสียงแนะนำจึงไม่จำกัดว่าต้องนั่งขัดสมาธิ แค่ให้นั่งหลังตรง วางมือสบายๆ บนตัก ซึ่งผู้เขียนชอบมากเพราะนั่งเก้าอี้ที่ไหนก็ได้ และที่สำคัญเหน็บไม่กิน แต่ที่เปรี้ยวกว่านั้นก็คือ บางโปรแกรมเช่น การทำสมาธิเพื่อให้หลับลึก แนะนำให้เรานอนสมาธิซะงั้น ^ ^ ลองทำตามแล้วรู้สึกผ่อนคลายสุดๆ ที่กลัวว่าจะหลับไปเลยก็มีบ้างในวันที่ง่วงจัดๆ แต่ส่วนมากก็ทำตามได้จนจบ ดังนั้น ถ้าวันไหนผู้อ่านรู้สึกเมื่อยหลังนั่งไม่ไหวแล้ว จะนอนทำสมาธิก็ไม่ผิดผีแต่ประการใดค่ะ

อันที่จริงสมาธิทำได้และควรทำในทุกอิริยาบถ นอนก็ได้ เดินก็ได้ วิ่งก็ยังได้ ถ้าอยากลองวิ่งสมาธิร่วมกับนักวิ่งคนอื่น เช้ามืดวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคมนี้ เจอกันที่พุทธมณฑลค่ะ



ถึงตรงนี้อาจมีคำถามว่า แล้วผู้เขียนได้อะไรจากการนั่งสมาธิติดต่อกัน 33 วัน ขอตอบว่า สิ่งหนึ่งที่ทำได้ดีขึ้นเป็นลำดับคือ ปล่อยวางเร็ว เพราะระหว่างการทำสมาธิ เราได้ผ่านการฝึกดึงสติกลับมาที่ลมหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่ย่อท้อ ไม่ตัดสินตัวเอง ...จะว่าไปก็เหมือนชีวิตนักวิ่งมาราธอนที่นิชคุณพูดไว้ในรักเจ็ดปีดีเจ็ดหนว่า “หน้าที่ของเรามีแค่มองไปที่พื้นถนนข้างหน้า 7 ฟุต แล้ววิ่งผ่านมันไปให้ได้” นักวิ่งต้องปล่อยวางความท้อแท้ ความคิดที่จะล้มเลิก ทำเพียงอย่างเดียวคือก้าวต่อไป..และต่อไป

โพสต์ที่เกี่ยวข้อง
สนใจอุปกรณ์ที่คอยตรวจสอบสภาวะจิตใจของเรา อ่าน Wearable Devices สวมใส่อะไรอีกดีหนอนักวิ่ง ?

========================================
อ่านนิตยสาร Thai Jogging Magazine ฉบับเดือนพฤษภาคม 2559 แบบออนไลน์



วารสาร Thai jogging เป็นวารสารของสมาพันธ์ชมรมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพไทย พิมพ์เผยแพร่มาตั้งแต่ปี พศ.2545 เฉพาะสมาชิก สถาบันการศึกษา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้สนใจ สนใจสมัครเป็นสมาชิก ติดต่อได้ที่สำนักงานสมาพันธ์ชมรมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพไทย โทรศัพท์ 0-2455-9149 ค่าจัดส่งวารสารทางไปรษณีย์ปีละ 300บาท (12ฉบับ)

No comments:

Post a Comment

*************************************************************************************
ผักกาดๆ ถ้าข้อความไม่ขึ้น นั่นแปลว่า blog คิดว่าข้อความของท่านเป็น spam ไม่ต้องกังวลค่ะ comment เหล่านี้จะตกไปอยู่ที่กล่อง spam รอให้เจ้าของ blog มาตรวจสอบ (ก็คือเรานั่นเอง ^ ^)
*************************************************************************************

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...