Thai Jogging Magazine ฉบับประจำเดือนกรกฎาคม 2558
โดย oorrunningblog
ยังจำเรื่อง เก้าอี้พิฆาต ที่เคยเล่าไว้ในวิ่งทันโลกฉบับเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วได้มั้ยคะ ที่สรุปไว้ว่า ถึงคุณจะวิ่งมากแค่ไหน แต่ถ้ายังนั่งมากเกินไป ก็อันตรายอยู่ดี คนที่มีความเสี่ยงจะนั่งมากเกินไปลำดับต้นๆ ก็คือพนักงานออฟฟิศอย่างเราๆ นี่แหละค่ะ
ผ่านมาหนึ่งปีเต็ม มีนักวิ่งออฟฟิศคนไหนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปแล้วบ้างคะ ยืดเส้นยืดสายบ่อยขึ้นมั้ย? มีโต๊ะยืนทำงานกันหรือยัง? ใช้ชีวิตนอกสนามวิ่งให้แอคทีฟมากขึ้นหรือเปล่า? ถ้าทำแล้วก็ขอยินดีด้วยค่ะ แต่ถ้ายังไม่ทำ วันนี้วิ่งทันโลกจะมาปลุกใจกันอีกครั้ง ด้วยงานวิจัยและเทรนด์ใหม่ล่าสุด ที่จะทำให้ก้นคุณแตะเก้าอี้น้อยลง มาดูกันเลยค่ะว่าเราจะบูรณาการการเดินเข้ากับการทำงานได้ยังไง
Cr. soocurious.com |
เดินไปครีเอทไป
ถ้าอาชีพของคุณต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ อย่างเช่น ครีเอทีฟ นักเขียน นักแต่งเพลง ฯลฯ หรือแม้แต่พนักงานออฟฟิศทั่วไปที่ต้องทำงานบางอย่างด้วยความคิดสร้างสรรค์ ลองเดินไปคิดไปดูสิคะ!! มีผลการศึกษาเมื่อปี 2014 จาก ม.สแตนฟอร์ดระบุว่า ขณะเดิน คนเราจะมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าตอนนั่ง
วิธีทดลองก็คือ ให้นักศึกษา 176 มาตอบคำถามประเภทที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ ที่ใช้กันทั่วไปคือคำถามที่ให้ชื่อสิ่งของมาอย่างหนึ่งเช่น มีด แล้วให้ตอบว่าเอาไปใช้ทำอะไรได้บ้างให้มากที่สุด ภายในเวลาที่กำหนด เช่น หั่นผัก เกลี่ยเนย แทงคน แงะฝาหอย โดยจะได้คะแนนต่างกันไปขึ้นกับความความแปลกใหม่ ความสมเหตุสมผล จำนวนคำตอบ ฯลฯ
โดยให้ทดลองในขณะที่ทำกิจกรรมต่างกันไป เช่นนั่งในร่ม นั่งกลางแจ้ง เดินในร่ม เดินกลางแจ้ง (บทความบอกว่าเดินสั้นๆ แต่ไม่ได้ระบุว่ากี่นาที) จากการทดลองพบว่า นักศึกษา 81% ได้คะแนนตอนเดินมากกว่าตอนนั่ง และโดยเฉลี่ยขณะที่เดิน พวกเขาจะตอบคำถามได้คะแนนมากกว่าตอนนั่งถึง 60% โดยไม่เกี่ยงว่าเดินที่ไหน
ยิ่งกว่านั้น หลังจากเดินเสร็จแล้วกลับมานั่ง แล้วให้ทำแบบทดสอบเพิ่มเติม พวกเขาก็ยังทำคะแนนได้มากกว่าตอนนั่งตลอดเวลาอยู่ดี นั่นแสดงว่าการเดินส่งผลให้เราเกิดความคิดสร้างสรรค์ได้ต่อเนื่องแม้จะหยุดเดินไปแล้ว โดยจะมีผลต่อเนื่องอย่างน้อย 16 นาที
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ ผลการทดลองที่ว่า ไม่ว่าจะเดินบนสายพานอันแสนน่าเบื่อ หรือเดินชมนกชมไม้อย่างรื่นรมย์ในสวนสวย ก็เพิ่มความคิดสร้างสรรค์ได้ทั้งนั้น นั่นแปลว่าถ้าอยากเดินเพื่อเพิ่มความคิดสร้างสรรค์แล้วล่ะก็ สิ่งแวดล้อมหรือความรู้สึกไม่สำคัญเลย ขอแค่ให้ได้เดินเท่านั้นเป็นพอ
Steinway, N C Wyeth, "Beethoven and Nature" (1919) Cr.brandywine.org |
ใครบ้างที่ทำแบบนี้
บีโธเฟน คีตกวีและนักเปียโนชาวเยอรมัน เจ้าของซิมโฟนีหมายเลข 5 และ 9 อันโด่งดัง ค้นพบความจริงข้อนี้มาเป็นร้อยปีแล้ว ระหว่างนั่งทำงานเขาจะคั่นด้วยการเดินยืดเส้นสายเป็นเวลาสั้นๆ ส่วนในตอนบ่ายเขาจะออกเดินเตร็ดเตร่ไปทั่วกรุงเวียนนา พร้อมดินสอและกระดาษ เพื่อจดความคิดที่แวบเข้ามาหรือสิ่งกระทบใจที่ได้พบเห็น
เดินไปประชุมไป
การเดินประชุม (meeting on the move) ถูกจุดกระแสขึ้นจาก TED talk เมื่อสองปีที่แล้วของ Nilofer Merchant เจ้าของธุรกิจคนหนึ่งในซิลิคอนแวลลีย์ เธอใช้วิธีเดินไปคุยงานไปเพราะเหตุผลหลักคือ เธอยุ่งมากจนไม่มีเวลาออกกำลังกาย จึงจับมันมารวมกันซะเลย
สิ่งที่ได้รับ นอกเหนือจากได้นั่งน้อยลง ได้เดินมากขึ้นแล้ว เธอยังพบว่ามันให้ผลลัพธ์ดีกว่าการประชุมแบบเดิมๆ มากมาย ประการแรก ไม่มีอะไรมาเบี่ยงเบนความสนใจของผู้เข้าร่วมประชุมได้ เพราะเวลาเดิน เราต้องเก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋า เราถือโน้ตบุ๊คมาทำงานค้างไม่ได้เหมือนที่เคยทำในการประชุมแบบนั่งโต๊ะ เราต้องเดินออกมาจากห้องทำงาน ทำให้ไม่มีใครตามเราไปทำนู่นนี่ระหว่างประชุมได้ ประการต่อมา ขณะเดิน เราจะพูดคุยกันอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น และแน่นอน ไอเดียกระฉูดมากกว่านั่งโต๊ะ
สำหรับนักวิ่งออฟฟิศที่เริ่มสนใจการเดินประชุมขึ้นมาบ้างแล้ว คำแนะนำคือ การเดินประชุมเหมาะกับการคุยงานกลุ่มเล็ก 2-3 คน ควรออกจากออฟฟิศไปเดินรอบตึก ถ้าเป็นไปได้หาสวนสาธารณะที่มีต้นไม้เขียวๆ ให้เดินแล้วรู้สึกผ่อนคลาย ถ้าอยากจดบันทึกก็จดลงสมุดแบบเดียวกับตอนนั่งประชุมนั่นแหละ ตอนแรกอาจยังขัดเขินอยู่บ้างแต่ทำสักสองสามครั้งก็ชินไปเอง ควรหารองเท้ามาเปลี่ยนด้วย การเดินนานๆ บนส้นสูงไม่ดีต่อสุขภาพแน่ๆ
Cr.mukeshbalani.wordpress.com |
ใครบ้างที่ทำแบบนี้
สตีฟ จ็อบส์ และ มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก ใช้การเดินประชุมเวลาสัมภาษณ์งาน หรือคุยงานกันแบบสองต่อสอง มานานแล้ว
อ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าเพื่อนนักวิ่งออฟฟิศยังคิดไม่ออกว่าจะหาช่องทางเดินเตร็ดเตร่ไปตามสวน ตามเมืองในเวลางานแบบบีโธเฟน หรือยังนึกไม่ออกว่าจะเดินประชุมแบบ สตีฟ จ็อบส์ กับใครได้ ขอแนะนำว่า ในเวลาที่คุณเคยง่วงจนต้องพึ่งกาแฟ หรือเวลาที่เครียดจนต้องเข้าอินเตอร์เน็ตเล่นเฟสบุคไปตามประสา ลองเปลี่ยนเป็นออกไปเดินใกล้ๆ นอกออฟฟิศดูค่ะ ถ้าจะให้ดีควรเป็นสถานที่สีเขียว จะได้เห็นอะไรใหม่ๆ เห็นฟ้าไกลๆ ผ่อนคลายจากข้อจำกัดทุกอย่างที่เกิดขึ้นในการทำงาน...เพียงเท่านี้ก็ลดเวลานั่งโต๊ะลงได้วันละหลายนาทีแล้ว
แอคทีฟในสนามวิ่งแล้ว ก็ต้องแอคทีฟในพื้นที่อื่นๆ ของชีวิตด้วยนะคะ จะได้มีสุขภาพดีอย่างแท้จริง
ที่มา
Why Steve Jobs Took Long Walks and Why You Should Too
========================================
อ่านนิตยสาร Thai Jogging Magazine ฉบับเดือนกรกฎาคมแบบออนไลน์
วารสาร Thai jogging เป็นวารสารของสมาพันธ์ชมรมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพไทย พิมพ์เผยแพร่มาตั้งแต่ปี พศ.2545 เฉพาะสมาชิก สถาบันการศึกษา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้สนใจ สนใจสมัครเป็นสมาชิก ติดต่อได้ที่สำนักงานสมาพันธ์ชมรมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพไทย โทรศัพท์ 0-2455-9149 ค่าจัดส่งวารสารทางไปรษณีย์ปีละ 300บาท (12ฉบับ)
No comments:
Post a Comment
*************************************************************************************
ผักกาดๆ ถ้าข้อความไม่ขึ้น นั่นแปลว่า blog คิดว่าข้อความของท่านเป็น spam ไม่ต้องกังวลค่ะ comment เหล่านี้จะตกไปอยู่ที่กล่อง spam รอให้เจ้าของ blog มาตรวจสอบ (ก็คือเรานั่นเอง ^ ^)
*************************************************************************************