tag:blogger.com,1999:blog-2808358134295188573.post2960680288038886394..comments2024-02-22T14:42:32.216+07:00Comments on runforlife: ท่าวิ่ง version 2Run Forlifehttp://www.blogger.com/profile/10819478015882117525noreply@blogger.comBlogger8125tag:blogger.com,1999:blog-2808358134295188573.post-83981213824678382162013-06-29T19:56:08.524+07:002013-06-29T19:56:08.524+07:00ยินดีค่ะ ถามได้สงสัยได้วิจารณ์ได้เต็มที่เลยค่ะ ชอบ...ยินดีค่ะ ถามได้สงสัยได้วิจารณ์ได้เต็มที่เลยค่ะ ชอบตอบ ^__^<br /><br />ส่วนตัว เวลาดูท่าวิ่งของตัวเอง ก็รู้สึกว่าตัวเองทำตัวโหย่งๆพิกัลเหมือนกัน 555+<br />แต่คงเป็นเพราะสรีระมังคะ เพราะโดนทักว่าวิ่งเด้งๆ ตั้งแต่สมัยวิ่งลงเต็มเท้าแล้ว<br /><br />ท่านี้ ก็คงไม่ใช่ท่าสุดท้ายหรอกค่ะ <br />คงจะปรับไปเรื่อย จนกว่าจะสบายจริงๆ<br />เพราะตอนนี้ แขนยังเกร็งอยู่มาก<br />เมื่อเช้าก็ไป workshop barefoot มา<br />ไม่แน่...ต่อไปอาจวิ่งแบร์ฟุตเลยก็ได้ค่ะ<br /><br />เอาใจช่วยค่ะ<br />แน่นอน ความตึง ล้าน่อง เลี่ยงไม่พ้นค่ะ แก้ได้ด้วยการยืดน่องบ่อยๆ ตลอดเวลาที่คิดออก<br />ความ "จงใจ" ก็เลี่ยงไม่พ้นเช่นกัน<br />เพราะถ้าไม่จงใจ เราจะกลับไปลงเท้าแบบที่เคยชินแน่นอน<br />แต่ทำไปนานๆ เดี๋ยวก็เป็นธรรมชาติไปเองค่ะ<br /><br />ขอบคุณที่สนใจอ่าน blog เราจนครบทุกตอนนะคะ<br />ตาแฉะกันไปข้างนึงแน่ๆเลย อิอิอิRun Forlifehttps://www.blogger.com/profile/10819478015882117525noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2808358134295188573.post-44477329616143987192013-06-29T19:38:25.117+07:002013-06-29T19:38:25.117+07:00ขอบคุณครับ สงสัยผมก็คงต้องฝึกต่อไป ไม่ใช่อะไรหรอกค...ขอบคุณครับ สงสัยผมก็คงต้องฝึกต่อไป ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ตอนดูท่าวิ่งversion 2ใหม่ๆ ผมรู้สึกเหมือนคุณ oor วิ่งโหย่งๆตัวหนะครับ ก็ดูsmoothดี แต่เหมือนมันเป็นการกระชากจังหวะไปเรื่อยๆ เลยไม่แน่ใจว่าตั้งใจบังคับวิ่งแบบนั้นไหม แล้วมันจะทนได้นานไหม เพราะผมเคยลองฝึกไม่ลงส้น(แต่ก็ไม่แน่ใจว่าลงที่ball of foot หรือเปล่า) มันจะมีความรู้สึกว่าต้องบังคับตัวเองดีดไปข้างหน้าเรื่อยๆ ได้ประมาณ 1- 2 โล ก็รู้สึกล้าที่น่อง และเหนื่อย รู้สึกมันฝืนๆยังไงไม่รู้ ถ้าคุณ oor ว่ามันฝึกต่อไปได้ก็คงต้องพยายามต่อไปครับ<br /><br />ปล. ขอสมัครเป็นผู้ติดตามblogอย่างเป็นทางการเลยนะครับ จริงๆแอบอ่านมาหลายเดือนแล้ว อ่านครบทุกตอนแล้วนะครับ พร้อมๆกับblogของคุณไช้หนุ่บnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2808358134295188573.post-44663915272119944462013-06-29T18:05:27.003+07:002013-06-29T18:05:27.003+07:00สำหรับเรา แยกเป็น 2 อย่างค่ะ คือเหนื่อยกับล้า
ความ...สำหรับเรา แยกเป็น 2 อย่างค่ะ คือเหนื่อยกับล้า<br />ความเหนื่อยขึ้นกับความสามารถของหัวใจ<br />ความล้าขึ้นกับความสามารถของกล้ามเนื้อ<br /><br />ท่าใหม่นี้ เราไม่ได้เหนื่อยขึ้นค่ะ <br />เพราะความเหนื่อยของเราจะแปรผันตาม cadence <br />ถ้าลองดูช็อตเปรียบเทียบระหว่างท่าเวอร์ชั่น 1 กับเวอร์ชั่น 2 จะเห็นว่า cadence หรือจำนวนก้าวต่อนาที เท่ากันเป๊ะ<br />ซึ่ง cadence ของเราสูงเป็นธรรมชาติ (คือประมาณ 180 ในกรณีวิ่งสบาย<br />และ 190 ในกรณีแข่ง 10K) มานานแล้วจากการฝึกฝน<br /><br />แต่ความล้า มีค่ะ เพราะเราใช้กล้ามเนื้อที่น่องที่ไม่เคยถูกใช้มาก่อนสมัยวิ่งลงส้น<br />ฝึกแรกๆ วิ่งได้ 2 กม. ก็น่องตึงเปรี๊ยะแล้วค่ะ<br />แต่ร่างกายมนุษย์มหัศจรรย์ที่สุด ถ้าทู่ซี้ใช้มันบ่อยๆ มันก็จะปรับมาแข็งแรงสู้เราเอง<br />ตอนนี้เราวิ่งท่านี้ 8K ได้แล้วโดยไม่ล้า<br />ก็ต้องค่อยๆเพิ่มระยะตามกฏของไมโลกันต่อไปค่ะ ^ ^<br /><br />ลักษณะการลงเท้าก็เช่นกัน <br />ตอนแรกก็ต้องตั้งใจวางเท้าแบบนี้<br />แต่ตอกย้ำ เคี่ยวเข็นมันนานๆเข้า ตอนนี้เป็นธรรมชาติไปแล้วค่ะ<br />เริ่มออกตัววิ่งเมื่อไหร่ ก็จะเริ่มด้วยท่านี้ตลอด<br />จนกว่าจะล้าน่องจนไม่ไหวนั่นแหละ จึงจะต้องเปลี่ยนมาใช้ท่่า version 1 แทนRun Forlifehttps://www.blogger.com/profile/10819478015882117525noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2808358134295188573.post-72588624106949491562013-06-29T16:22:40.312+07:002013-06-29T16:22:40.312+07:00อยากรู้ว่าวิ่งแบบหลังนี่แล้วเหนื่อยขึ้นไหมครับ ดูแ...อยากรู้ว่าวิ่งแบบหลังนี่แล้วเหนื่อยขึ้นไหมครับ ดูแล้วเหมือนวิ่งดึงจังหวะ สลับขาค่อนข้างเร็ว ต้องตั้งใจวางขาอย่างนี้ หรือเป็นธรรมชาติไปแล้ว ผมเคยลองฝึกบังคับไม่ให้ลงส้น ช่วงแรกๆก็พอได้ แต่พอทางไกลหน่อย มันก้ไม่ไหว รู้สึกน่องตึง เหนื่อยไวกว่าปกติAnonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2808358134295188573.post-87954998619912759842013-06-27T12:40:50.258+07:002013-06-27T12:40:50.258+07:00ขอบคุณค่ะ การลงหน้าเท้าจะทำให้เรามีโช้ค 2 ชั้น...โ...ขอบคุณค่ะ การลงหน้าเท้าจะทำให้เรามีโช้ค 2 ชั้น...โช้คนะคะ ไม่ใช่โชค มันเลยดูนิ่มเช่นนี้แล<br /><br />ลดน้ำหนักได้ก็ดีค่ะ ข้อต่อเส้นเอ็นจะได้แบกภาระน้อยๆ พี่ก็กำลังลดเหมือนกัน อ้วนไม่ไหวแร้ววววRun Forlifehttps://www.blogger.com/profile/10819478015882117525noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2808358134295188573.post-239557390079912712013-06-27T12:38:03.287+07:002013-06-27T12:38:03.287+07:00ใช่เลยค่ะ ท่าสวยงามอาจจะมี(แต่ก็ขึ้นกับรสนิยมอีกนั...ใช่เลยค่ะ ท่าสวยงามอาจจะมี(แต่ก็ขึ้นกับรสนิยมอีกนั่นแหละ) แต่ท่าถูกต้อง...เราคิดว่าไม่มี ขึ้นกับว่าวิ่งแล้วเราสบาย ใช้ความพยายามน้อย ลื่นไหล ไม่บาดเจ็บหรือเปล่า ซึ่งแต่ละคนต้องมีท่าที่เหมาะกับตัวเองอยู่ ที่จำเป็นต้องเหมือนกัน ดูได้จากอีลิทในงานวิ่งต่างๆ ที่มีท่าไม่เหมือนกันเลย<br /><br />ขอให้คุณฮั้วพบท่าเนื้อคู่นั้นในที่สุดนะคะ อิอิRun Forlifehttps://www.blogger.com/profile/10819478015882117525noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2808358134295188573.post-83256347252208498372013-06-26T12:18:34.350+07:002013-06-26T12:18:34.350+07:00การลงเท้าพี่ดูนิ่มสบายตาดีจัง pace 5:10 นาที/กม ผ...การลงเท้าพี่ดูนิ่มสบายตาดีจัง pace 5:10 นาที/กม ผมยังทำไม่ได้เลยตอนนี้ยังต้องลดน้ำหนักลงอีกครับไม่ไหวๆ 5555+++Relaxhttps://www.blogger.com/profile/14418991185370604035noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2808358134295188573.post-50823632120336326692013-06-25T16:05:19.899+07:002013-06-25T16:05:19.899+07:00เท่าที่ดูท่าก็สวยดีนะคะ วิ่งความเร็วขนาดนี้ยังนิ่ง...เท่าที่ดูท่าก็สวยดีนะคะ วิ่งความเร็วขนาดนี้ยังนิ่งก็เยี่ยมแล้วค่ะ .. แต่ฮั้วไม่รู้หรอกนะว่าท่าถูกต้องหรือสวยต้องเป็นอย่างไร ตอนนี้กำลังหาท่าที่วิ่งแล้วสบายที่สุดและใช้ effort น้อยที่สุดในแบบของตัวเองอยู่ <br /><br />สู้ต่อไปค่า ^_^Anonymoushttps://www.blogger.com/profile/14474681620946798658noreply@blogger.com